ธนารักษ์จัดที่ราชพัสดุ 141 ไร่ หนุนท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ “ภูเก็ต”

“กรมธนารักษ์” มอบ 141 ไร่ ปั้นท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเทียบระดับโลก มูลค่าลงทุนรวม 4 พันล้านบาท แล้วเสร็จไม่เกิน 2 ปี เริ่มก่อสร้างปลายปี 63 นี้ ประเดิมเฟสแรกสาธารณสุขใช้เงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานราว 2,000 ล้านบาท พร้อมเผยผุด ““หอชมเมือง” บริเวณ “สวนป่าเบญจกิติ” เทียบชั้น “โตเกียว-ดูไบ-เซี่ยงไฮ้” เงินก่อสร้างอาจขอระดมทุนรับบริจาคจากประชาชนร่วมด้วยช่วยกัน คาดจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ตได้เข้ามาหารือเพื่อต้องการจะยกระดับจังหวัดภูเก็ตให้ต่างชาติเข้ามาใช้บริการในรูปแบบการดูแลสุขภาพ โดยเบื้องต้นได้เชิญผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลในจังหวัดภูเก็ต และภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ต ไปพูดคุยกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อหารือร่วมกัน ซึ่งจากการประชุมกับผู้บริหารกระทรวงคลังเห็นชอบให้กรมธนารักษ์มอบพื้นที่ให้กระทรวงสาธารณสุขเพื่อดำเนินการได้

โดยวันที่ 2 พ.ย.2563 ที่จะถึงนี้กรมธนารักษ์จะมีพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้พื้นที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ภก.153 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เนื้อที่ประมาณ 141-2-64 ไร่ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ระหว่างกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง กับ กระทรวงสาธารณสุข ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

เพื่อดำเนินโครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก โดยจัดสร้างศูนย์บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขระดับนานาชาติครบวงจร ศูนย์อภิบาลสุขภาพผู้สูงอายุนานาชาติ ศูนย์ใจรักษ์ และศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูครบวงจร ภายใต้กรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

ทั้งนี้คาดว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มดำเนินโครงการนี้ได้ในช่วงปลายปี 2563 โดยใช้เงินลงทุนรวม 4,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 2 ปีข้างหน้านี้ โดยสาธารณสุขจะใช้เงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเฟสแรกประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าพื้นที่ดังกล่าวจะเป็นแลนด์มาร์คระดับประเทศ หรือระดับเอเชีย เนื่องจากภูเก็ตมีทำเลที่สวยงาม และมีการคมนาคมที่สะดวก ช่วยสร้างรายได้ให้จังหวัดภูเก็ตได้พอสมควร

“โครงการนี้เป็นระดับพรีเมี่ยม รับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งจากการหารือโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตจะเป็นผู้นำประกอบโรงพยาบาลเอกชนในภูเก็ตทั้งหมดมาร่วมมือกัน ซึ่งหากสร้างเสร็จสถานที่ตรงนี้จะสามารถรักษาได้หลายโรค โดยมีโรงพยาบาลของรัฐเป็นเครือข่ายทั้งหมดในการบริการนักท่องเที่ยวต่างชาติมาดูแลสุขภาพ” นายยุทธนากล่าว

นอกจากนี้กรมธนารักษ์ยังมีแผนก่อสร้าง “หอชมเมือง” ในพื้นที่การดำเนินก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ที่จะแล้วเสร็จช่วงเดือน มิ.ย.2564 โดยคาดว่าเงินก่อสร้างครั้งนี้อาจต้องหารือกันก่อน แต่แนวคิดเบื้องต้นอาจจะระดมทุนรับบริจาคให้ประชาชนร่วมด้วยช่วยกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต เหมือนในกรุงโตเกียว นครดูไบ หรือเซี่ยงไฮ้