สรรพสามิต บุกจับบุหรี่เถื่อน ปรับกว่า 169 ล้านบาท

กรมสรรพสามิต ดำเนินมาตรการเชิงรุกป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมาย บุกทลายสถานที่เก็บบุหรี่เถื่อน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบบุหรี่เถื่อนของกลาง จำนวน 201,200 ซอง คิดเป็นเงินค่าปรับจำนวน 169,008,000 บาท

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ลงพื้นที่แกะรอยติดตามแหล่งที่ตั้งของสถานที่เก็บบุหรี่เถื่อน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมทั้งวางแผนทลายสถานที่เก็บบุหรี่และจับกุมผู้กระทำผิด จำนวน 2 จุด จึงทำให้ตรวจค้นพบบุหรี่ที่ยังมิได้เสียภาษี จำนวนทั้งสิ้น 201,200 ซอง มีมูลค่าของกลางประมาณ 16,096,000 บาท มูลค่าภาษีที่รัฐเสียหายประมาณ 11,267,200 บาท และคิดเป็นเงินค่าปรับจำนวน 169,008,000 บาท และ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. จุดที่ 1 ตรวจพบบุหรี่ที่ยังมิได้เสียภาษีสรรพสามิต จำนวน 1,200 ซอง มูลค่าของกลางประมาณ 96,000 บาท มูลค่าภาษีประมาณ 67,200 บาท คิดเป็นค่าปรับประมาณ 1,008,00 บาท

2. จุดที่ 2 ตรวจพบบุหรี่ที่ยังมิได้เสียภาษีสรรพสามิต จำนวน 200,000 ซอง (เป็นการขยายผลการจับกุมจากจุดที่ 1 มูลค่าของกลางประมาณ 16,000,000 บาท มูลค่าภาษี ประมาณ 11,200,000 บาท คิดเป็นค่าปรับ 168,000,000 บาท

อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวต่อว่า สำหรับผลการปราบปรามในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 รอบ 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 –28 มกราคม 2564 พบว่ามีการกระทำผิด จำนวน 9,595 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 177.19 ล้านบาท โดยแยกเป็น สุรา จำนวน 5,438 คดี ค่าปรับ 49.67 ล้านบาท ยาสูบ จำนวน 2,858 คดี ค่าปรับ 67.01 ล้านบาท ไพ่ จำนวน 222 คดี ค่าปรับ 2.75 ล้านบาท น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 393 คดี ค่าปรับ 25.83 ล้านบาท น้ำหอม จำนวน 37 คดี ค่าปรับ 1.65 ล้านบาท รถจักรยานยนต์ จำนวน 448 คดี ค่าปรับ จำนวน 11.80 ล้านบาท และสินค้าอื่น ๆ จำนวน 199 คดี ค่าปรับ 18.48 ล้านบาท โดยมีของกลางแยกเป็นน้ำสุรา จำนวน 254,065.641 ลิตร ยาสูบ จำนวน 215,736 ซอง ไพ่ จำนวน 15,940สำรับ น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 771,866 ลิตร น้ำหอม จำนวน 82,416 ขวด รถจักรยานยนต์ จำนวน 648 คัน

“หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ Call center 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ www.excise.go.th ซึ่งกรมสรรพสามิตจะปกปิดข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ และจะมอบสินบนนำจับให้ ภายหลังจากคดีเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว