สุพัฒนพงษ์ ถกผู้ทำแผนฟื้นฟูการบินไทย หาช่องลดพนักงาน-เพิ่มทุน

สุพัฒนพงษ์ ถกผู้ทำแผน-FA บินไทย ติดตามคืบหน้าแผนฟื้นฟู มั่นใจยื่นศาลทัน 2 มี.ค.

สคร. เผยรองนายกฯ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามความคืบหน้าแผนฟื้นฟูการบินไทย 9 ก.พ.นี้ ชี้ผู้ทำแผนมีบทบาทหลักปรับปรุงแผนใหม่ “คลัง” มีหน้าที่คอมเมนต์ฐานะผู้ถือหุ้น ส่วนแนวทางเพิ่มทุนยังไม่สรุป คาดยื่นแผนฟื้นฟูต่อศาลทัน 2 มี.ค.64

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 ก.พ.นี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ได้เรียกผู้ทำแผนฟื้นฟูการบินไทย รวมทั้งสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.), สคร. และบริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด ฐานะที่ปรึกษาการบิน, บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในเรื่องแผนฟื้นฟูการบินไทย เข้ามาหารือร่วมกันที่กระทรวงการคลัง เพื่อติดตามความคืบหน้าการปรับแผนฟื้นฟูการบินไทย แล้วจะรายงานคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไปในสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตาม บทบาทการปรับแผนฟื้นฟูหลักๆ ยังเป็นหน้าที่ของผู้จัดทำแผน หลังจากที่การบินไทยขอศาลขยายระยะเวลาการทำแผนฟื้นฟูกิจการออกไปเป็นครั้งที่ 2 จนถึงวันที่ 2 มี.ค. 64 ซึ่งขณะนี้ผู้จัดทำแผนก็อยู่ระหว่างปรับปรุงแผนอยู่ โดยบางส่วนเป็นไปตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง เพราะกระทรวงการคลังมีบทบาทในฐานะผู้ถือหุ้น

ส่วนแนวทางเพิ่มทุนให้กับการบินไทยด้วยรูปแบบสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) นั้น ยังไม่มีแหล่งเงินทุน อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงิน ทั้งสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้เดิม และสถาบันการเงินอื่นด้วย อย่างไรก็ดี คาดว่าภายใน 2 มี.ค.นี้ จะสามารถยื่นแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลได้ ซึ่งจะต้องมีการหารือร่วมกับเจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้น และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนอกรอบก่อน ซึ่งเมื่อถึงกระบวนการยื่นต่อศาลแล้วขั้นตอนต่างๆ จะง่ายขึ้น เนื่องจากจะทำให้ขั้นตอนการออกความคิดเห็นของเจ้าหนี้ผ่านได้เร็ว


“คลังไม่ได้คอมเมนต์ชัดเจนว่า ต้องลดพนักงานลงเท่าไหร่ หรือมีการเพิ่มทุนหรือไม่ เนื่องจากเป็นเรื่องของผู้ทำแผนที่จะต้องไปคิดใหม่ ส่วนกรณีกระแสข่าวปลดพนักงานออกนั้น ไม่ใช่ความเห็นของคลัง เป็นความเห็นของผู้ทำแผน คลังไม่มีบทบาทในส่วนนั้น เป็นหน้าที่ผู้ทำแผนพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนจะลดค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ คลังจึงจะสามารถเพิ่มทุนได้ก็ยังไม่ได้สรุป ซึ่งพรุ่งนี้จะมีการประชุมอีกครั้ง อาจจะเห็นความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวด้วย”