ธอส. รับรางวัลองค์กรมีความเป็นเลิศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมเป็นดิจิทัลแบงก์เต็มรูปแบบ

ธอสได้รับรางวัล Global Performance Excellence Award 2020 ระดับ Best in Class 1 ใน 2 องค์กรของประเทศไทย ที่มีความเป็นเลิศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ต่อยอด รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (TQA) 2019 พร้อมก้าวเป็นดิจิทัลแบงก์เต็มรูปแบบในปี’66

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า รางวัล Global Performance Excellence Award 2020 : GPEA 2020 ระดับ Best in Class จาก Asia Pacific Quality Organization ,Inc. (APQO) ที่ธนาคารได้รับในครั้งนี้ ถือเป็นรางวัลเชิดชูเกียรติที่มอบให้แก่องค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีความเป็นเลิศในการดำเนินธุรกิจ และนำกรอบการบริหารจัดการคุณภาพตามมาตรฐานสากลมาพัฒนาและบริหารจัดการองค์กรในทุกมิติเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรให้ทัดเทียมกับนานาชาติ

โดย ธอส. ได้รับการประกาศชื่อให้เป็น 1 ใน 2 องค์กรแรกของประเทศไทยในรอบ 18 ปี ที่ได้รับรางวัลดังกล่าว นับเป็นรัฐวิสาหกิจไทยแห่งแรก และเป็นเพียงแห่งเดียวที่ได้รับรางวัล GPEA 2020 อีกด้วย สะท้อนถึงประสิทธิภาพในระดับมาตรฐานโลก  ความเป็นเลิศในการบริหารจัดการองค์กรมีระบบการนำองค์กร การวางแผนกลยุทธ์ การดูแลลูกค้า พนักงาน ระบบงาน และมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดี สร้างคุณค่าให้กับสังคมไทยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ในการดำเนินงานตามพันธกิจทำให้คนไทยมีบ้าน

จึงนับเป็นความภาคภูมิใจ อีกขั้น      ต่อยอดจากการที่ ธอส. ได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ประจำปี 2562 (Thailand Quality Award -TQA 2019) รางวัลระดับประเทศที่สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะสำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ มอบให้กับองค์กรที่มีการบริหารจัดการทุกด้านที่เป็นเลิศและทัดเทียมมาตรฐานโลก         ซึ่งองค์กรที่ได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ หรือ TQA แล้ว จะไม่สามารถยื่นขอรับรางวัลได้อีกเป็นเวลา 5 ปี ตามเกณฑ์   ที่สำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติกำหนด    

นายฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ ธอส. ได้พัฒนาการให้บริการใหม่ด้านดิจิทัลทั้งทางด้านการเงินและสินเชื่อขึ้นสู่ Application : GHB ALL แอปเดียวครบ จบ เหมือนยกธนาคารไว้ในมือคุณ มาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้า     ทำธุรกรรมกับ ธอส. ได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว สอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ ภายใต้ โครงการ G H Bank New Normal Services โดยเริ่มให้บริการตามแผนของโครงการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2563 ถึง วันที่ 16 มีนาคม 2564      หรือภายในระยะเวลา 182 วัน ธอส. มีฟังก์ชั่นใหม่ที่เปิดให้บริการลูกค้าผ่าน GHB ALL รวม 15 บริการ

ซึ่ง 2 บริการล่าสุดที่เริ่มให้บริการเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา คือ 1.สมัคร Application : GHB ALL ด้วยตัวเอง  สำหรับลูกค้าที่มีการพิสูจน์ยืนยันตัวตนด้วยการเปรียบเทียบใบหน้า(Facial Recognition) ที่ได้จัดเก็บไว้กับธนาคารเรียบร้อยแล้ว ทำให้ลูกค้าสามารถสมัครใช้งาน Application : GHB ALL ด้วยตัวเองได้ทันทีโดยไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา ซึ่ง ธอส.เป็นสถาบันการเงินของรัฐแห่งแรกที่ใช้เทคโนโลยีในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล        ด้วยการเปรียบเทียบใบหน้าผ่านโครงข่ายแพลตฟอร์ม National Digital ID (NDID) ซึ่งใช้ Blockchain เทคโนโลยี มาพัฒนาการให้บริการแก่ลูกค้าในการเปิดบัญชีออมทรัพย์ผ่าน Application : GHB ALL

2.การโอนเงินเข้าบัญชีอัตโนมัติหลังทำนิติกรรม สำหรับลูกค้าสินเชื่อของธนาคารที่มีการกู้เพื่อปลูกสร้างซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย และชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย เป็นต้น เมื่อทำนิติกรรมแล้วเสร็จจะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีเงินฝากของลูกค้าโดยอัตโนมัติ จากเดิมที่ต้องนำแคชเชียร์เช็คที่ธนาคารมอบให้หลังทำนิติกรรมไปขึ้นเงินที่สาขาอีกครั้ง และสามารถตรจสอบยอดเงินที่เข้าบัญชีผ่าน GHB ALL ได้ทันที สะดวก      และปลอดภัย ไม่ต้องไปสาขา

นอกจากนี้ ในระยะต่อไป ธอส.จะพัฒนาฟังก์ชั่นการให้บริการผ่าน GHB ALL เพิ่มขึ้นเช่น การเปิดให้ลูกค้าจ่ายเบี้ยประกันอัคคีภัย เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ปลดล็อค Application : GHB ALL ด้วยตัวเอง    ในกรณีที่ลูกค้าเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่หรือเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์(เปลี่ยนซิม)แต่ใช้เครื่องเดิม           เริ่มเปิดให้บริการวันที่ 16 พฤษภาคม 2564

ทั้งนี้ เพื่อการยกระดับสู่การเป็น Digital Service Bank ในปี 2564    และก้าวเป็น Digital Bank เต็มรูปแบบในปี 2566 โดยตั้งเป้าลดจำนวนธุรกรรมที่เคาน์เตอร์ภายในสาขาให้เหลือ 5% จำนวนธุรกรรมผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ ตู้ชำระเงินกู้ LRM ที่หน้าสาขาเหลือ 15% และเพิ่มจำนวนธุรกรรมผ่าน Application : GHB ALL เป็น 80% ของจำนวนธุรกรรมทั้งหมด ภายในปี 2565

โดย วันที่ 15 มีนาคม 2564 มีจำนวนลูกค้าที่สมัครและใช้งาน GHB ALL จำนวน 944,393 บัญชี เพิ่มขึ้นถึง 660,822 บัญชี จาก สิ้นปี 2562 ที่มีจำนวนลูกค้าใช้งานเพียง 283,571 บัญชี และมีจำนวนลูกค้าทำธุรกรรมผ่าน GHB ALL  คิดเป็น 54.61% ของธุรกรรมทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการพัฒนาบริการใหม่ของธนาคารที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์(Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th, Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์    และ  Application : GHB ALL