BTSGIF เผยยอดผู้โดยสารรถไฟฟ้าลดลง 47% กระทบราคาประเมินทรัพย์สินร่วง 5.5 พันล้าน

บีทีเอส

กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) เผยยอดผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS เฉพาะส่วนหลัก สถานีหมอชิต – สถานีอ่อนนุช และสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ – สถานีสะพานตากสิน ลดลงจากโควิดระบาด เฉพาะเดือนเมษายน ร่วง 46.4% จากเดือนก่อน ขณะที่ทั้งปี 63/64 หด 47.3% ส่งผลต่อราคาประเมินทรัพย์สินครั้งล่าสุดลดลงกว่า 5,520 ล้านบาท พร้อมยืนหยัดเคียงข้างผู้โดยสาร ร่วมมือขยายเวลาเที่ยวเดินทางรถไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) เปิดเผยว่า จำนวนผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า BTS (เฉพาะส่วนหลัก สถานีหมอชิต – สถานีอ่อนนุช และสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ – สถานีสะพานตากสิน) ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด

ล่าสุด เดือนเมษายน 2564 อยู่ที่ 6.7 ล้านเที่ยว ลดลง 46.4% จากเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้น 93.6% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่วนจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งปี 2563/2564 (เดือนเมษายน 2563 – มีนาคม 2564) อยู่ที่ 124.9 ล้านเที่ยว ลดลง 47.3% จาก ปี 2562/2563 ซึ่งมี 236.9 ล้านเที่ยว

พรชลิต พลอยกระจ่าง

ทั้งนี้ กองทุน BTSGIF ได้ทำการประเมินทรัพย์สินเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งบริษัทประเมินทรัพย์สินได้ทำการประเมินเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 โดยปรับปรุงประมาณการรายได้และรายจ่ายสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 และปีอื่นๆ หลังจากนั้น พร้อมทั้งให้ราคาประเมินใหม่ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 อยู่ที่ 44,790 ล้านบาท ลดลงจากการประเมินครั้งก่อนหน้า 5,520 ล้านบาท

“โดยปกติ มูลค่าทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่กองทุนลงทุนในปัจจุบัน จะลดลงตามอายุของสิทธิในรายได้สุทธิตามสัญญาสัมปทานที่จะหมดอายุในปี 2572 อยู่แล้ว แต่เนื่องจากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงสมมติฐานค่าโดยสารและการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลง

เราจึงต้องนำปัจจัยเหล่านี้มาใช้ในการประเมินทรัพย์สินครั้งนี้เพิ่มเติมด้วย เพื่อให้ผู้ลงทุนเห็นภาพที่สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งเป็นการตีมูลค่าทางบัญชีที่ไม่ได้มีผลต่อการดำเนินงาน ขณะที่ราคาหน่วยลงทุนในปัจจุบันอยู่ต่ำกว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิมาก ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุน” นายพรชลิต กล่าว

เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย มีการกระจายวัคซีนให้ประชาชนในวงกว้าง กองทุน BTSGIF เชื่อมั่นว่า จำนวนผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า BTS จะทยอยกลับมาเป็นปกติ เนื่องจากประชาชนยังมีความต้องการใช้ระบบขนส่งมวลชนที่อำนวยความสะดวกให้สามารถเดินทางเชื่อมต่อภายในเมืองและเชื่อมต่อกับเขตเมืองชั้นนอกได้รวดเร็ว ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อการดำเนินงานในอนาคตได้

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่สถานการณ์แพร่ระบาดยังมีอยู่ ในฐานะที่ BTSGIF เป็นส่วนหนึ่งของสังคม จึงร่วมมือกับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องผลกระทบค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ผู้โดยสาร ด้วยการออกมาตรการดูแลผู้โดยสารเป็นครั้งที่ 3

“ขยายเวลาบัตรโดยสารที่มีเที่ยวเดินทางในบัตรหมดอายุในช่วงตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน จนถึง 31 พฤษภาคม 2564 ซึ่งผู้โดยสารสามารถทยอยนำบัตรโดยสาร มาติดต่อขอรับสิทธิ์ขยายเวลาเที่ยวเดินทางได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึง 31 ธันวาคม 2564 (และเที่ยวเดินทางนี้จะมีอายุ 30 วัน นับตั้งแต่การใช้ครั้งแรก)”

นายพรชลิต กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจเกือบทุกประเภท รวมถึงการใช้ชีวิตของทุกๆ คน โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและท่องเที่ยว ซึ่ง BTSGIF ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน แต่เราพร้อมยืนเคียงข้างประชาชนในการก้าวผ่านความท้าทายครั้งนี้ไปด้วยกัน เราขอร่วมเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายสู้ไปด้วยกัน และขอขอบพระคุณบุคลากรทางการแพทย์เป็นอย่างยิ่งที่เสียสละเป็นด่านหน้าในการรับมือกับการแพร่ระบาด

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต