อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิด 10 มาตรการต่อเนื่องช่วยเหลือลูกค้า พนักงาน ตัวแทน และประชาชนทั่วไป หวังสนับสนุนสังคมไทยเดินหน้าฝ่าโควิดไปด้วยกัน
วันที่ 10 มิถุนายน 2564 นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารงานลูกค้า บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปีที่แล้ว บริษัทได้ดูแลผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ ทั้งลูกค้า ตัวแทน พนักงาน และสังคมโดยรวม จนถึงปัจจุบัน บริษัทออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าแล้วกว่า 10 มาตรการ ไม่ว่าจะเป็นเสริมความคุ้มครองโควิด-19 รอบด้าน
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
1.การให้ความคุ้มครอง กรณีลูกค้าติดเชื้อและเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน ซึ่งครอบคลุมการรักษาทั้งในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (hospitel)
2.ความคุ้มครองการตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับลูกค้าที่มีอาการผิดปกติ เช่น ไอ จาม เจ็บคอ มีไข้สูง กว่า 37.5 องศา เหนื่อยหอบ หายใจลำบาก และแพทย์มีการวินิจฉัยว่ามีความจำเป็นต้องดำเนินการตรวจ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการให้การรักษาพยาบาลตามความจำเป็นทางการแพทย์
3.การช่วยประสานงานและให้คำปรึกษาการเข้ารับการรักษา กรณีที่ลูกค้าได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นโควิด-19 โดยบริษัท ได้สร้างไลน์กรุ๊ปไว้สำหรับให้ทางตัวแทนสามารถประสานงานกับทางโรงพยาบาลเครือข่ายได้โดยตรง นอกจากนั้นยังมีการจัดตั้งทีม Health Care Covid Center เพื่อประสานงานกับโรงพยาบาลในเครือ เพื่อให้คำแนะนำตัวแทน ให้สามารถให้ความช่วยเหลือลูกค้าได้อย่างเต็มที่
4.การคุ้มครองค่าฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแผนประกันสุขภาพที่ลูกค้ามีอยู่ และมีการระบุผลประโยชน์ค่าวัคซีน
5.คุ้มครองกรณีมีอาการแพ้จากการฉีดวัคซีน สำหรับลูกค้าที่มีสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพ ภายหลังจากฉีดวัคซีนแล้ว ไม่เกิน 60 วัน โดยมีอาการแพ้หรือได้รับผลกระทบข้างเคียง และมีความจำเป็นทางการแพทย์ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือคลินิก ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.–31 ธ.ค. 2564 และเป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทยเท่านั้น
6.การลดระยะเวลารอคอยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองเร็วขึ้น กรณีที่ลูกค้ามีการซื้อสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพฉบับใหม่ โดยลดระยะเวลารอคอยการเข้ารับการรักษาด้วยโรคโควิด-19 จาก 30 วันเป็น 14 วัน และสามารถใช้บริการเคลมแบบที่ลูกค้าไม่ต้องสำรองจ่ายออกไปก่อน (แฟกซ์เคลม) จากเดิม ที่จะใช้สิทธิ์ได้ต้องรอ 90 วัน ลดเหลือเพียง 30 วันก็สามารถเคลมแบบไม่ต้องสำรองจ่ายได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของรพ.คู่สัญญา และเงื่อนไขกรมธรรม์ด้วย
7.มีการปรับบริการสู่รูปแบบออนไลน์ ดูแลทั้งสุขภาพกาย และใจ ผ่านเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับการออกมาตรการที่เข้ามาช่วยดูแลลูกค้ากรณีที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 แล้ว ทางบริษัทได้มีการปรับการให้บริการให้กับลูกค้าสู่ช่องทางออนไลน์แบบเต็มรูปแบบมากขึ้น อาทิ แอปพลิเคชั่น My Allianz ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการตลอด 24 ชั่วโมง อาทิ การบริหารจัดการกรมธรรม์ เปลี่ยนชื่อที่อยู่ เช็กความคุ้มครองตามกรมธรรม์ที่มีอยู่ การเคลมออนไลน์ที่ให้ลูกค้าสามารถส่งเอกสารผ่านช่องทางนี้โดยไม่ต้องส่งเอกสารที่เป็นกระดาษเข้ามา
8.การขอกู้เงินตามกรมธรรม์ การบริการ Telemedicine บริการพิเศษเฉพาะ ลูกค้าอลิอันซ์ อยุธยา ที่มีประวัติการรักษาต่อเนื่องด้วยโรคหัวใจ, โรคความดันโลหิต, โรคไต, โรคเบาหวาน ใน รพ. 28 แห่งที่ร่วมโครงการ สามารถนัดพบเเพทย์ได้โดยไม่ต้องไปที่โรงพยาบาล โดยลูกค้าที่มีความคุ้มครองแบบผู้ป่วยนอก OPD ของอลิอันซ์ อยุธยา สามารถใช้บริการ OPD cashless ได้ โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์
9.การบริการผู้ป่วยนอกร่วมกับ รพ.สมิติเวช ผ่าน TELEMEDICINE-SAMITIVEJ VIRTUAL HOSPITAL โดยไม่ต้องสำรองจ่าย สำหรับลูกค้าที่มีสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพ ผู้ป่วยนอก (OPD) และสัญญายังมีผลบังคับอยู่ สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกได้ตามจริง เพื่ออำนวยความสะดวกในการพบแพทย์ผ่านวิดีโอคอล ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการมาโรงพยาบาลและการเดินทาง
10.การเพิ่มบริการ Healthy Living Talk บนแพลตฟอร์มออนไลน์ Healthy Living โดยเพิ่มเฉพาะเรื่องโควิด-19 ให้สมาชิกสามารถทำนัดเพื่อพูดคุยทางโทรศัพท์เรื่องโควิด-19 กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้โดยตรง เสริมจากบริการ Telemedicine ที่เรามีอยู่ นอกจากนั้น ยังมีแคมเปญพิเศษ แจกโค้ดส่วนลดสำหรับการช็อปปิ้งออนไลน์ให้กับลูกค้า เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่ต้องกักตัวอยู่กับบ้าน
นอกจากลูกค้าแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานและฝ่ายขายอย่างเต็มที่ โดยเราคำนึงถึงความสะดวกของการทำงานและการดูแลสุขภาพเป็นสำคัญ เรามีนโยบายให้ 90% ของพนักงานทำงานที่บ้าน (Work From Home) ปรับกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การประชุม ฝึกอบรม เป็นแบบออนไลน์ทั้งหมด ทั้งยังมีการจัดตั้งทีม COVID-19 taskforce เพื่อดูแลให้ข้อมูลและคำปรึกษาด้านสุขภาพให้กับพนักงานกว่า 1,200 คน และควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในบริษัท
“ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด อลิอันซ์ อยุธยา มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดี ด้วยเป้าหมายหลักในการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ทั้งในด้านบริการและผลิตภัณฑ์ เราจึงเดินหน้าเต็มที่ แสดงให้ลูกค้าเห็นว่าเราใส่ใจและห่วงใยลูกค้าของเราเสมอ อีกทั้งในสถานการณ์เช่นนี้ เราพร้อมจะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนของสังคมไทย ที่จะจับมือทุกฝ่ายก้าวผ่านสถานการณ์ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน” นางสาวพัชรากล่าว