ข้าราชการไม่ได้อยู่กลุ่มเสี่ยง ต้องจ่ายเงินตรวจโควิดเอง

กรมบัญชีกลาง

กรมบัญชีกลาง เผยข้าราชการที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง มีอาการแพนิก ต้องเสียค่าตรวจโควิดเอง ชี้สวัสดิการตรวจโควิดฟรี รพ.รัฐ-เอกชน ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น พร้อมเปิดรายละเอียดสิทธิรักษาโควิด

วันที่ 12 ก.ค.64 รายงานข่าวจากกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง มีสวัสดิการในเรื่องการดูแลและรักษาพยาบาล สำหรับโควิด-19 โดยข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ผู้รับเบี้ยหวัด ผู้รับบำนาญ (ผู้มีสิทธิ) และบุคคลในครอบครัว ที่เสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19 ให้สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลในระบบเบิกจ่ายตรงได้ โดยไม่ต้องทดรองจ่ายเงินไปก่อน โดยผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย หรือมีอาการของโรคปอดอักเสบ สามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของทางราชการและสถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งทั่วประเทศ

อย่างไรก็ดี กรณีที่ข้าราชการ หรือผู้มีสิทธิที่ไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยง แต่มีอาการแพนิก แล้วเดินทางไปตรวจโควิดที่โรงพยาบาลรัฐ หรือเอกชน จะไม่สามารถเบิกจ่ายตรงได้ ข้าราชการจะต้องจ่ายเงินที่เข้ารับการตรวจเอง เนื่องจากสวัสดิการของกรมบัญชีกลาง ครอบคลุมเฉพาะผู้มีสิทธิที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งไม่มีอาการ และผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ที่มีอาการแล้ว ซึ่งหากแพทย์ได้ดำเนินการสอบสวนโรคตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดแล้ว หรือแพทย์วินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ทั้งในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน

ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ในกรณีของโรงพยาบาลของรัฐ ดังนี้

– กรณีผู้ป่วยนอกผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสามารถเบิกค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการด้วยเทคนิค Real time RT-PCR หรือเทคนิคอื่น ๆ เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 2,200 บาทต่อครั้ง

– กรณีติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) และสถานพยาบาลรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยในแล้ว สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมได้ เช่น ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการด้วยเทคนิค Real time RT-PCR หรือเทคนิคอื่น ๆ เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 2,200 บาทต่อครั้ง ค่าห้องพักสำหรับควบคุมหรือดูแลรักษา เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 2,500 บาทต่อวัน ค่ายารักษาเฉพาะผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 7,200 บาท

– กรณีแพทย์ผู้รักษาเห็นว่า อาการดีขึ้นสามารถส่งตัวไปพักฟื้น ณ สถานที่ที่สถานพยาบาลของทางราชการได้จัดหาไว้เป็นการเฉพาะ เช่น สถานพยาบาลสนาม หอผู้ป่วย COVID-19 ของกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น เพื่อดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,500 บาทต่อวัน

และในกรณีที่สถานพยาบาลของทางราชการมีความจำเป็นต้องส่งตัวผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผู้มีสิทธิมีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการนอกเหนือจากค่าพาหนะส่งต่อ รายการค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment) และค่าบริการทำความสะอาดฆ่าเชื้อบนรถพาหนะส่งต่อ ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 3,700 บาท ต่อครั้งที่มีการส่งต่อ

– สนับสนุนมาตรการ Social Distancing ของรัฐบาล โดยให้ผู้ป่วยเก่าของสถานพยาบาลที่รับยาอย่างต่อเนื่องสามารถรับยาที่บ้านได้ ลดความเสี่ยงในการเดินทางมายังสถานพยาบาลในช่วงที่เกิดการระบาดของโรค

ส่วนผู้มีสิทธิที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ในกรณีของโรงพยาบาลเอกชน ดังนี้

– กรณีติดเชื้อโควิด-19 การเบิกค่ารักษาพยาบาลจะครอบคลุมตั้งแต่สถานพยาบาลเอกชนรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยใน จนถึงสิ้นสุดการรักษา รวมถึงการส่งตัวผู้ป่วยไปเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลเอกชนแห่งอื่นที่ได้จัดเตรียมไว้ ทั้งนี้ หากผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัว ปฏิเสธการย้ายไปยังสถานพยาบาลเอกชนที่ได้จัดเตรียมไว้ หรือประสงค์จะย้ายไปรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลของเอกชนแห่งอื่น ค่ารักษาพยาบาลภายหลังจากนั้น จะไม่สามารถใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลจากทางราชการได้

– กรณีไม่ติดเชื้อโควิด-19 การเบิกค่ารักษาพยาบาลจะครอบคลุมตั้งแต่สถานพยาบาลเอกชนรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยใน จนถึงผู้ป่วยได้รับแจ้งผลการตรวจที่ยืนยันว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินตามกฎหมายว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉิน หลังจากที่ได้รับการยืนยันว่า ไม่ติดเชื้อ ให้เบิกได้ตามหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยในสถานพยาบาลของเอกชน กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน พ.ศ. 2560

ทั้งนี้ สำหรับผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัว ที่มีประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19 หากสิทธิที่ได้รับเงินตามประกันภัยต่ำกว่าค่ารักษาพยาบาลในคราวนั้น ผู้มีสิทธิ มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามหลักเกณฑ์นี้เฉพาะส่วนที่ขาดอยู่