‘เจนเนอราลี่’ กำไรครึ่งปี 1,540 ล้านยูโร “ธุรกิจประกัน-บริหารสินทรัพย์” ทั่วโลกโตดี

กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่กรุ๊ป เผยผลประกอบการครึ่งแรกปี 64 ทำกำไรจากผลการดำเนินงานรวมกว่า 3,000 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 10.4% หนุนกำไรสุทธิกว่า 1,540 ล้านยูโร “ธุรกิจประกันชีวิต-ประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด-บริหารสินทรัพย์-โฮลดิ้ง” ทั่วโลกเติบโตดี มีความสามารถชำระหนี้ระดับแข็งแกร่งที่ 234% ด้าน “ธุรกิจประกันชีวิตในไทย” รั้งอันดับที่ 11 เบี้ยรับรวม 5,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.92%

วันที่ 10 สิงหาคม 2564 นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการของเจนเนอราลี่กรุ๊ป(สำนักงานใหญ่อิตาลี)ในช่วงครึ่งปีแรก(ม.ค.-มิ.ย.64) มีการเติบโตไปในทิศทางที่ดี โดยมีกำไรจากผลการดำเนินงานรวมกว่า 3,000 ล้านยูโร หรือเพิ่มขึ้น 10.4% จากการเติบโตของธุรกิจด้านประกันชีวิต, ธุรกิจบริหารสินทรัพย์, ธุรกิจโฮลดิ้ง และธุรกิจอื่น ๆ รวมถึงผลการดำเนินงานจากธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด (P&C)

นอกจากนี้ในส่วนของยอดรวมเบี้ยประกันภัยรับรวมมีมูลค่าสูงถึง 38,000 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 5.5% ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด และผลกำไรขั้นต้นของธุรกิจใหม่ (New Business Margin) ทำให้มีกระแสเงินลงทุนไหลเข้าของธุรกิจประกันชีวิต (Life Net Inflows) สูงถึง 6,300 ล้านยูโร คิดเป็นอัตราส่วนรวมอยู่ที่ 89.7%

จากตัวเลขผลประกอบที่เพิ่มสูงขึ้นจึงทำให้เจนเนอราลี่กรุ๊ป มีผลกำไรสุทธิหลังปรับปรุงกว่า 1,540 ล้านยูโร และมีความสามารถในการชำระหนี้อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 234% ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีแนวโน้มเริ่มคลี่คลายในหลายประเทศ รวมถึงในทวีปยุโรป จากการกระจายฉีดวัคซีนที่ครอบคลุม คาดการณ์ว่าระบบเศรษฐกิจโลกโดยรวมน่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ภายในปี 2564 ประกอบกับการขยายตัวของนโยบายการเงินการคลังในวงกว้างจะส่งผลดีต่อภาคการประกันภัยในภาพรวม

จากบริบทดังกล่าวเจนเนอราลี่กรุ๊ปจึงมุ่งมั่นดำเนินการตามกลยุทธ์ในการปรับสมดุลพอร์ตประกันชีวิตเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและจัดสรรเงินทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในส่วนของธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ดนั้น ยังคงรักษาแนวโน้มเชิงบวกของเบี้ยประกันพร้อมกับผลกำไรที่ยอดเยี่ยม แม้จะได้รับผลกระทบจากการเรียกร้องสินไหมจากภัยพิบัติทางธรรมชาติในทวีปยุโรปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และในขณะเดียวกัน จะมีการดำเนินกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงตลาดที่มีศักยภาพสูงโดยการเพิ่มบริการข้อเสนอใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

“ทั้งนี้กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่กรุ๊ป ได้ยืนยันที่จะมุ่งมั่นเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ รวมถึงการปรับโครงสร้างการดำเนินงานให้สอดรับและตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภค New Normal เพื่อพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป ถึงแม้ในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยังเกิดขึ้นทั่วโลก แต่เจนเนอราลี่ กรุ๊ป  เชื่อมั่นว่าในแต่ละประเทศเริ่มมีการรับมือได้ดีขึ้น ประชาชนได้เข้าถึงวัคซีนในวงกว้าง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจของโลกกลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็ว” นายบัณฑิต กล่าว

ส่วนธุรกิจประกันภัยในไทย ในส่วนธุรกิจประกันชีวิต มีเบี้ยรับรวมที่ 5,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.92% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน มีส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์) เป็นอันดับที่ 11 ด้วยสัดส่วน 1.74%

มร.ฟิลลิป ดอนเนท (Philippe Donnet) ประธานกรรมการบริหาร เจนเนอราลี่กรุ๊ป กล่าวว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และถือเป็นสิ่งยืนยันได้ถึงการดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อบรรลุเป้าหมายตามแผนกลยุทธ์ ‘Generali 2021’ ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ จากการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญทำให้ตำแหน่งของบริษัทเจนเนอราลี่กรุ๊ปแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในฐานะผู้นำด้านประกันของยุโรป

ด้วยการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมจากทุกภาคส่วน การขับเคลื่อนนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล และเครือข่ายช่องทางจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ โดยจากนี้ต่อไปเจนเนอราลี่ กรุ๊ป จะเดินหน้าต่อไปด้วยความมุ่งมั่นเดิมตามเป้าหมาย ‘Lifetime Partner’ ที่วางไว้ ด้วยความกระตือรือร้น ความมุ่งมั่น และพลังของชาวเจนเนอราลี่กว่า 72,000 คน รวมถึงตัวแทนกว่า 165,000 คนทั่วโลก และเราตั้งตารอที่จะนำเสนอแผนใหม่นี้ที่งาน Investor Day ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้”