สำนักงาน คปภ. ร่วมมือ ภาคธุรกิจประกันภัย จัดงาน “Thailand InsurTech Fair 2021” ระหว่งวันที่ 26-30 ต.ค.64 รูปแบบ Virtual ครั้งแรกในไทย จัดหนักส่วนลดเบี้ยสูงสุด 35%
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
วันที่ 8 ตุลาคม 2564 ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ.ร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัย ประกอบด้วย สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย และสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน จัดงาน “Thailand InsurTech Fair 2021” มหกรรมด้านประกันภัย ที่ได้รวบรวมผลิตภัณฑ์ประกันภัยจากทุกบริษัทชั้นนำทั่วไทย และผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีด้านการประกันภัยหรืออินชัวร์เทค (InsurTech) จากทั่วทุกมุมโลกให้ได้เรียนรู้ เข้าถึงสินค้าและบริการ ด้านการประกันภัยในรูปแบบต่างๆ
โดยจัดงานในรูปแบบออนไลน์ Virtual ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-30 ตุลาคม 2564 ถือว่าแตกต่างจากงานเดิม สัปดาห์ประกันภัยที่จัดงานมากกว่า 8 ปี โดยผู้เข้าร่วมงานสามารถทำการลงทะเบียนผ่าน www.tif2021.com ได้ตั้งแต่วันนี้ ทั้งนี้ไม่จำกัดจำนวนคนเข้างาน
ความพิเศษภายในงาน คปภ.ได้มีการออกคำสั่งนายทะเบียน อนุญาตให้บริษัทประกันภัยสามารถลดเบี้ยประกัน ซึ่งปีนี้พิเศษลดเบี้ยให้ประชาชนสูงสูดถึง 35% จาก 30% พร้อมของแถมตลอดทั้งงาน โดยเลือกซื้อประกันภัยได้ผ่านออนไลน์แพลตฟอร์ม ระหว่างเวลา 09.00-20.00 น.ของทุกวัน
ทั้งนี้ภายในงานจะมีงานสัมมนาวิชาการ กว่า 23 หัวข้อ โดยมี 4 หัวข้อหลัก ประกอบด้วย 1.การกำกับดูและและส่งเสริมเทคโนโลยีกับโอกาสใหม่ในธุรกิจประกันภัยไทยและต่างประเทศ 2.ถอดบทเรียนธุรกิจประกันภัยหลังเผชิญสถานการณ์การระบาดโควิด-19 เพื่อเป็นโมเดลธุรกิจภายหลังวิถี Next Normal 3.เทคโนโลยีด้านประกันภัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้และจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตซึ่งจับต้องได้ และ 4.ประสบการณ์ต่อธุรกิจประกันภัยจากมุมมองของประชาชนหรือผู้บริโภค
เลขาธิการ คปภ.กล่าวด้วยว่า สำหรับกลุ่มผู้บริหารมั่นใจว่าจะอัปเดตเทรนด์ใหม่ในแวดวงเทคโนโลยีด้านการประกันภัย (InsurTech) จากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำทั่วโลก เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกับกลุ่มบริโภคเดิมกับผลิตภัณฑ์เดิม หรือกลุ่มผู้บริโภคเดิมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือกลุ่มผู้บริโภคใหม่และผลิตภัณฑ์ใหม่ และค้นหา New S-Curve จาก speakers มากประสบการณ์ ด้านนักลงทุนได้พบปะ ร่วมลงทุนในบริษัทอินชัวร์เทคไฟแรงในตลาดที่มีโอกาสเติบโตได้สูง และเป็นที่จับตามองในวงการสตาร์ทอัพ
พร้อมทั้งกลุ่มอินชัวร์เทคสตาร์ทอัพจะได้มีโอกาสในการนำเสนอผลงานและสร้างคอนเนคชั่นกับผู้บริหารบริษัทประกันภัยและกลุ่มนักลงทุน รวมไปถึงผู้เข้าร่วมงาน หากไอเดียเป็นที่น่าสนใจ อาจจะกลายเป็น unicorn ตัวต่อไปของประเทศไทย และบริษัทสายเทคฯ มั่นใจว่างานนี้จะสามารถเพิ่มช่องทางเจาะตลาดธุรกิจอินชัวร์เทค
ผ่านการนำเสนอโซลูชันและเทคโนโลยีแก่ผู้บริหารทุกระดับชั้น จากทุกบริษัทประกันภัยในประเทศไทยที่เข้าร่วมงาน เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งในกลุ่มตัวแทนนายหน้าประกันภัย จะได้ข้อมูลเคล็ดลับการบริหารงานประกันภัยให้มีประสิทธิภาพด้วยการใช้เทคโนโลยี เทคนิคการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคในทุกๆ มิติ และเรียนรู้การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ next generation เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แบบไร้ขีดจำกัด สำหรับตัวแทนและนายหน้าประกันภัย
“หวังว่าการจัดงานในครั้งนี้ จะเป็นการสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมประกันภัยปรับตัวให้ทันกับความก้าวล้ำของเทคโนโลยีและนวัตกรรมภายใต้ระบบนิเวศน์ที่เหมาะสม และให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการข้อมูลที่สำคัญและจำเป็นต่อการประเมินทางเลือกและประกอบการตัดสินใจซื้อประกันภัยได้ตรงกับความต้องการและความเสี่ยงภัยของตนเองได้อย่างแท้จริง
นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า งานนี้จะมี 12 บริษัทเข้าร่วมงานครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยเตรียมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ ทั้งการประกันชีวิต ประกันสะสมทรัพย์ และประกันสุขภาพโรคร้ายแรง เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยง
นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า งานนี้ทางบริษัทประกันวินาศภัยจะเข้าร่วมงาน 15 บริษัทและคาดหวังว่าประชาชนคนไทยจะได้ความรู้ด้านประกันภัยเพิ่มมากขึ้น โดยจากวิกฤตโควิด-19 รอบนี้จะเห็นว่าประชาชนเข้าถึงการประกันภัยโควิดกว่า 15 ล้านฉบับแล้ว ใน 8 เดือนแรกปีนี้หรือประมาณ 10 ล้านคนที่เป็นลูกค้าใหม่ ดังนั้นเมื่อประชาชนได้ทดลองใช้เพื่อรองรับความเสี่ยงใกล้ตัว สามารถแบ่งเบาภาระได้ เพราะจ่ายเบี้ยไม่มากแต่สินไหมทดแทนสามารถทดแทนช่วงยากลำบากได้ จึงเชื่อว่างานครั้งนี้จะมีคนเข้าร่วมจำนวนมากกว่าปกติถึง 10 เท่าตัว และคาดหวังว่าเปิดประตูและเปิดโลกใหม่ให้กับธุรกิจประกันภัยในทุกส่วน
