TGE ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 600 ล้านหุ้น รุกโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน รับเมกะเทรนด์

บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ หรือ TGE ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต.ขออนุมัติเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 600 ล้านหุ้น วางแผนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน หลังยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งสู่ผู้นำอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม รับเมกะเทรนด์ Green Energy 

วันที่ 12 มกราคม 2565 บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE  เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 600 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 27.3
ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ โดยจะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ลงทุนก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า ชำระเงินกู้สถาบันการเงินและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

นายพงศ์นรินทร์ วนสุวรรณกุล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการ บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายขยายการลงทุนเชิงรุกในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน   เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในอนาคต โดยเห็นโอกาสจากความตื่นตัวด้าน Green Energy หรือพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็น ‘เมกะเทรนด์’ ของโลกที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความต้องการจากพลังงานฟอสซิลที่ใช้แล้วหมดไป มาสู่การใช้พลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (ก๊าซเรือนกระจก) ที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อนเพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emission ตามนโยบายของภาครัฐที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2065 – 2070

“โรงไฟฟ้าของเราถือว่าเป็นธุรกิจที่อยู่ในเมกะเทรนด์ของโลก และสอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศหรือ Power Development Plan (PDP) ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน อาทิ พลังงานชีวมวล, พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม, พลังน้ำ, พลังงานจากขยะ ฯลฯ ให้มากยิ่งขึ้น บริษัท จึงมีความมั่นใจที่จะขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการใช้พลังงานทดแทนที่เพิ่มขึ้น” นายพงศ์นรินทร์กล่าว

ดร.ศักดิ์ดา ศิริภัทรโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE กล่าวว่า บริษัทจะขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่หลากหลายยิ่งขึ้นทั้งในและต่างประเทศ จากปัจจุบันที่มีโรงไฟฟ้าชีวมวลและโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งรวมเป็นประมาณ 90 เมกะวัตต์ (MW) ในอีก 4 ปีข้างหน้า และเพิ่มเป็นกว่า 200 MW ภายในปี 2575 จาก ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 29.7 MW ซึ่งมาจากโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เปิดดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 3 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้า TGE TPG และ TBP ในอำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีปริมาณไฟฟ้าเสนอขายกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตามสัญญาระยะยาวรวม 20.3 MW

บริษัทยังมีโรงไฟฟ้าขยะชุมชนอีก 3 โครงการ ในจังหวัดสระแก้ว ราชบุรี และชุมพร ที่ได้รับเลือกจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และอยู่ระหว่างพัฒนา มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 22 เมกะวัตต์ และปริมาณไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญารวมประมาณ 16 MW คาดว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะออกระเบียบรับซื้อไฟฟ้าและทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายในไตรมาส 1/2565 และเริ่ม COD ภายในปี 2567 ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมเพิ่มเป็น 51.7 MW และมีปริมาณไฟฟ้าเสนอขายกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รวม 36.3 MW นอกจากนี้ ยังได้วางแผนเติบโตในระยะยาวจากการเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนกับ อปท.อีก 4 โครงการ คาดว่าจะเปิดคัดเลือกผู้ร่วมลงทุนในไตรมาส 1/2565 และเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2569

นางรัชดา เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนชั้นนำที่มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าที่ทันสมัย การบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพจากความยืดหยุ่นด้านวัตถุดิบ และยังให้ความสำคัญกับการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตไฟฟ้า วัตถุดิบ การปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความมั่นคงด้านการจัดหาวัตถุดิบชีวมวลที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า จากความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลที่อยู่ในพื้นที่แหล่งเพาะปลูกปาล์มที่สำคัญ และการเป็นบริษัทในกลุ่มท่าฉางอุตสาหกรรมที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่