รมว.คลัง เดินหน้าศึกษาเก็บภาษีหุ้น หลังยกเว้นมานานกว่า 30 ปี ชี้ไม่กระทบนักลงทุนรายย่อย เก็บภาษีเพื่อความเป็นธรรม ขยายฐานภาษี
วันที่ 13 มกราคม 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเก็บภาษีหุ้นเป็นเรื่องที่มีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามีการยกเว้นมาแล้วกว่า 30 ปี โดยแต่ละประเทศที่เก็บภาษีหุ้น ก็มีทั้งรูปแบบ capital gain และภาษีธุรกิจเฉพาะ ส่วนประเทศไทยนั้นยังอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบ โดยจะแล้วเสร็จภายในปีนี้หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ จะต้องรอติดตาม
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ส่วนกรณีที่นักลงทุนมองว่าจะกระทบภาพรวมตลาด เนื่องจากสัดส่วนนักลงทุนที่เทรดส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่มีสัดส่วนน้อย กระทรวงการคลังยังจะเดินหน้าพิจารณาเก็บภาษีอยู่หรือไม่นั้น นายอาคม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา โดยมองว่าหากเก็บภาษีตามยอดธุรกรรมต่อครั้ง ก็จะไม่กระทบต่อภาพรวมตลาด ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายใหญ่หรือรายเล็ก แต่หากเก็บภาษีแบบ capital gain ก็อาจจะมีส่วนกระทบรายใหญ่ เนื่องจากมีการซื้อขายจำนวนมาก อย่างไรก็ดี การเก็บภาษีหุ้นสามารถทำได้ทั้ง 2 รูปแบบ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้สรุป
“ตลาดหุ้นเรายกเว้นภาษีมานานกว่า 30 ปีแล้ว ประเทศอื่นก็มีการเก็บภาษี ทั้งรูปแบบ capital gain หรือรูปแบบ transaction โดยส่วนใหญ่เก็บรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เช่น สหรัฐอเมริกา เก็บภาษีหุ้นรูปแบบ capital gain ขณะที่แนวทางการเก็บภาษีหุ้นของประเทศไทยนั้นเป็นอย่างไร ยังไม่สามารถระบุได้”นายอาคมกล่าว
ทั้งนี้ หลักการเก็บภาษีเพื่อความเป็นธรรม โดยผู้ที่ใช้ทรัพยากร ผู้มีรายได้ ก็มีหน้าที่ที่จะต้องเสียภาษี โดยที่มีการยกเว้น เพื่อสนับสนุนให้มีการลดต้นทุน แต่อย่าลืมว่าการลดต้นทุนเฉพาะด้านภาษีไม่ใช่ส่วนเดียว ยังมีต้นทุนทางด้านค่าธรรมเนียม และอื่นๆ จากตลาดหลักทรัพย์ โบรกเกอร์ เป็นต้น ซึ่งตลอด 30 ปี ไม่ได้มีการเก็บภาษีหุ้น แต่ตลาดหุ้นก็มีการเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ซื้อขายอยู่แล้ว
“การเก็บภาษีคริปโทเคอร์เรนซี และแนวคิดในการเก็บภาษีหุ้น เป็นเรื่องของการขยายฐานภาษี ซึ่งไม่ได้มีการขยายฐานภาษีมานานแล้ว ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจเติบโตแล้ว การจัดเก็บรายได้ของรัฐเพื่อนำมาพัฒนาก็ควรที่จะเพิ่มขึ้น แต่รายได้จีดีพีของเราเพิ่มตลอด แต่รายได้จากการจัดเก็บไม่ได้เพิ่มขึ้นมามากเท่าไหร่ เพราะส่วนหนึ่งได้ไปยกเว้นไว้เยอะ เพื่อสนับสนุน แต่การสนับสนุน เมื่อถึงเวลาสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง แข่งขันกับประเทศอื่นได้ ก็ควรจะลดน้อยถอยลงมา”นายอาคมกล่าว