ไทยรีประกันชีวิต กำไรเกือบ 100 ล้าน บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.12 บาท/หุ้น

ไทยรีประกันชีวิต ปี’64 กำไร 98 ล้านบาท อานิสงส์รายได้เงินลงทุนพุ่ง 78% บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.12 บาท/หุ้น แย้มแผนปี’65 เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ลุยตลาด สปป.ลาว-กัมพูชา-ไต้หวัน

นายสุทธิ รจิตรังสรรค์
นายสุทธิ รจิตรังสรรค์

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ว่า มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดการดำเนินงานปี 2564 เป็นเงินสดในอัตรา 0.12 บาท/หุ้น ซึ่งสูงกว่าขั้นต่ำของนโยบายจ่ายเงินปันผลที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 29 เมษายน 2565 คิดเป็นจำนวนเงิน 72 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2564 มีกำไรสุทธิ 98 ล้านบาท จากรายได้เงินลงทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 78% แตะ 66 ล้านบาท ตามภาวะตลาดหุ้นที่มีสัญญาณฟื้นตัวดี โดยเบี้ยประกันภัยต่อรับ เติบโต 25% แตะ 2,913 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิเติบโต 19% อยู่ที่ 2,725 ล้านบาท

ตามการเติบโตของเบี้ยประกันภัยต่อรับผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและประกันกลุ่มกว่า 60% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 1,807 ล้านบาท จากการทำสัญญาใหม่กับลูกค้า ทั้งงานประกันชีวิตแบบดั้งเดิม (Conventional) และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับลูกค้า (Non-Conventional)

ส่วนค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยและการดำเนินงานอยู่ที่ 145 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 12% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ตามผลประโยชน์จ่ายและค่าสินไหมทดแทนสุทธิ (เคลม) ที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเบี้ยประกันภัยต่อรับ และมีการตั้งสำรองพิเศษในครึ่งหลังของปี 2564 เพื่อรองรับสถานการณ์โควิด-19 ราว 170 ล้านบาท ขณะที่ค่าบำเหน็จสุทธิเพิ่มขึ้นราว 10% อยู่ที่ 626 ล้านบาท

Advertisment

แต่อย่างไรก็ตาม จากประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย และคุมเข้มความเสี่ยงในการรับงาน เพื่อควบคุมอัตราค่าสินไหมทดแทนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้ Combined Ratio (COR) ลดลงต่อเนื่องเหลือ 98% หากไม่รวมผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 COR จะลดลงเหลือเพียง 91.8% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 95%

นายสุทธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในปี 2565 บริษัทยังคงเดินหน้าร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์และหาโซลูชั่นใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นเตรียมเปิดตัว 2-3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ หวังยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทย

พร้อมเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศ อาทิ สปป.ลาว, กัมพูชา และไต้หวัน เพื่อผลักดันอัตรากำไรให้เพิ่มสูงขึ้น สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงต่อไป ภายใต้ประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย และคุมเข้มความเสี่ยงการรับงาน เพื่อรักษา Combined Ratio ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 95%