ธอส. ชง ครม. ขยายราคา “บ้านล้านหลัง” เป็น 1.5 ล้านบาท

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส
ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

ธอส. ชง ครม. 7 มิ.ย.นี้ ขยายราคาบ้านเข้าร่วม “บ้านล้านหลัง” จาก 1.2 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านบาท ช่วยลูกค้าระดับกลาง เข้าถึงบ้าน ได้ดอกเบี้ยคงที่ 1.99% นาน 4 ปี

วันที่ 7 มิถุนายน 2565 นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 7 มิ.ย.นี้ ธอส.จะเสนอให้พิจารณาปรับปรุงเงื่อนไขโครงการบ้านล้านหลัง เฟสสอง เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสให้คนไทยมีบ้านได้มากขึ้น โดยให้มีการขยายราคาที่อยู่อาศัยที่เข้าร่วมโครงการจาก 1.2 ล้านบาท เพิ่มเป็น 1.5 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านราคาสูงขึ้น สามารถเข้ามาขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากโครงการบ้านล้านหลังได้ด้วย

“การปรับเงื่อนไขบ้านล้านหลัง จะช่วยขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลางมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มนี้ที่ต้องการผ่อนบ้านเกิน 1.2 ล้านบาทมีโอกาสเข้าร่วมมาตรการได้ โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ยังคงคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยอยู่ อีกทั้งยังสอดคล้องกับแนวโน้มราคาที่อยู่อาศัยที่มีทิศทางปรับตัวขึ้นในอนาคต สำหรับกรอบวงเงินสินเชื่อยังคงใช้กรอบเดิม 20,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่เต็มวงเงิน แต่หากลูกค้าต้องการเพิ่มเติม ธอส.ก็สามารถขยายวงเงินตามความต้องการของลูกค้าได้”

สำหรับเงื่อนไขหลักในการเข้าร่วมบ้านล้านหลังยังคงเหมือนเดิม โดยผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น GHB ALL เพื่อกดลงทะเบียนรับรหัสเข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งจะได้รับรหัสตัวเลข 6 ตัว เพื่อนำมายื่นขอสินเชื่อ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านบาทต่อรายต่อหลักประกัน ให้กู้เพื่อซื้อบ้าน หรือห้องชุดที่อยู่อาศัยใหม่ บ้านมือสอง หรือเพื่อปลูกสร้าง และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก ผ่อนชำระไม่น้อยกว่า 7 ปี แต่สูงสุดไม่เกิน 40 ปี อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้น ข้าราชการ ตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี

ส่วนดอกเบี้ย คิดคงที่ 4 ปีแรกเท่ากับ 1.99% ต่อปี ปีที่ 5-7 เท่ากับเอ็มอาร์อาร์ลบ 2% ต่อปี ปีที่ 8 ถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป เท่ากับเอ็มอาร์อาร์ลบ 0.75% ต่อปี แต่หากเป็นลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับเอ็มอาร์อาร์ลบ 1% ต่อปี กรณีกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์ เท่ากับเอ็มอาร์อาร์ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ ของธนาคารอยู่ที่ 6.150% ต่อปี ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี

นายฉัตรชัยกล่าวว่า ธอส. ยังหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อขอให้ผ่อนปรนเงื่อนไขมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการ LTV ) เพื่อให้ ธอส.ปล่อยกู้ได้เกิน 100% เพื่อช่วยให้การปล่อยกู้ซื้อบ้านคล่องตัว และช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้น เพราะในปัจจุบันในการซื้อบ้าน ประชาชนต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการปรับปรุงหรือต่อเติม รวมถึงการซื้อเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน

“หาก ธปท.ผ่อนคลายการพิจารณาสินเชื่อได้เพิ่ม ทำให้อัตราส่วนสินเชื่อต่อราคาบ้านมากกว่าเดิม จากเดิมสถาบันการเงินจะไม่สามารถปล่อยกู้ให้เต็ม 100% ของราคาบ้านได้ เพราะ ธปท.กำหนด เพดานสัดส่วนสินเชื่อต่อราคาบ้านได้สูงสุด 70-90% ของมูลค่าหลักประกัน ส่วนที่เหลือต้องวางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 10-30% แต่ถ้าผ่อนคลายมาเป็นเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ และขยับเพิ่มเติมอีกเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ ก็จะช่วยกระตุ้นภาคอสังหาฯได้มากขึ้น และทำให้คนไทยมีโอกาสมีบ้านเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น” นายฉัตรชัยกล่าว