2 แบงก์รัฐระดมเงินฝากเพิ่ม “ออมสิน” จ่อออกเงินฝากเพื่อการเกษียณ เริ่มต้น 1 แสนบาท รับฝาก 10 ปี ดอกเบี้ยสูงเฉลี่ย 4.2% ต่อปี ฟาก “ธอส.” เร่งระดมเงินฝาก 4-6 หมื่นล้านบาท รองรับปล่อยสินเชื่อใหม่ คาดคนไทยแห่กู้ซื้อบ้านพุ่ง เร่งเครื่องก่อน “ดอกเบี้ยขาขึ้น” คาดทั้งปีแตะ 3 แสนล้านบาท
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ปัจจุบันธนาคารออมสินมีเงินฝากทั้งหมด 2.4 ล้านล้านบาท โดยในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ ธนาคารมีแผนจะออกผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อการเกษียณ 10 ปี
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ถือเป็นการสร้างวินัยการออมให้กับประชาชน รองรับสังคมสูงวัย โดยเป็นเงินฝากอัตราดอกเบี้ยขั้นบันได ดอกเบี้ยเฉลี่ย 10 ปี อยู่ที่ประมาณ 4.1-4.2% (หักอัตราภาษีแล้ว จะอยู่ที่ 3.7%) โดยเริ่มต้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.5% ต่อมาในปีที่ 4-5 ดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.5% และค่อย ๆ ขยับไปจนถึงปีที่ 10
“จะรับฝากเริ่มต้นตั้งแต่ 1 แสนบาทถึง 1 ล้านบาท ผู้ฝากสามารถถอนเงินระหว่างปีได้ โดยถอนเงินในปีใด ก็จะได้ดอกเบี้ยตามที่ระบุไว้ในปีนั้น ๆ เช่น ถอนช่วงปีที่ดอกเบี้ยอยู่ระดับ 3% ก็จะได้ดอกเบี้ย 3% ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ธนาคารออมสินต้องการช่วยเหลือสังคม กระตุ้นให้มีการออมเงินรองรับสังคมสูงวัย” นายวิทัยกล่าว
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.จะมีการปรับแผนระดมเงินเพิ่ม 4-6 หมื่นล้านบาท ด้วยการเพิ่มเงินฝาก ออกพันธบัตร และสลาก เพื่อเตรียมเงินรองรับการปล่อยสินเชื่อใหม่ จากไตรมาส 1 ของปี 2565 ธอส.มีเงินฝากทั้งหมด 1.31 ล้านล้านบาท โดยจะมีการออกสลากออมทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาท หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ออกสลากออมทรัพย์ ชุดขาลเพิ่มพูนไปแล้ว 2 หมื่นล้านบาท
“ตอนนี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นนโยบายของรัฐบาล ทั้งการลดค่าจดทะเบียนการโอนและจดจำนอง และการผ่อนคลายมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
รวมทั้งอานิสงส์การเปิดประเทศ ทำให้ผู้ที่มีรายได้กลับมามีความมั่นใจที่จะซื้อบ้านมากขึ้น จึงทำให้ยอดปล่อยสินเชื่อของธนาคารเพิ่มสูงขึ้น ธอส.จึงมีการปรับแผนระดมเงินฝากเพิ่ม” นายฉัตรชัยกล่าว
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ลูกค้าเงินฝากกลุ่มนี้จะค่อนข้างแข็งแรง ซื้อบ้านในระดับราคากว่า 3 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มเป็น 15-20% ของพอร์ตรวม และด้วยนโยบายที่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ไว้ จึงคาดว่าสิ้นปี 2565 ธอส.จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2.26 แสนล้านบาท
โดยเมื่อเปรียบเทียบการปล่อยสินเชื่อของ ธอส.กับธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด ที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์รวมกันทั้งหมด สามารถปล่อยสินเชื่อได้มากกว่า ธอส.ถึง 10% แต่ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยสินเชื่อได้มากกว่า ธอส. เพียง 4%
หรือเริ่มเห็นสัญญาณช่องว่างเพิ่มมากขึ้น และอาจจะเห็นว่าภายในปีนี้ ธอส.จะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้มากกว่าธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ เพราะคนต้องการมีที่อยู่อาศัยมากขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้คนส่วนใหญ่ทำงานที่บ้านมากขึ้น
“เราคาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้กว่า 2.8 แสนล้านบาท หรืออาจจะทะลุ 3 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่จะต้องรอพิจารณาสถานการณ์ในช่วงปลายปีนี้ด้วย เนื่องจากยังต้องรอติดตามนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ด้วย” นายฉัตรชัยกล่าว