SET ระวังแรงขายก่อนประชุมเฟด-รายงาน GDP สหรัฐ

set

บล.ไทยพาณิชย์ คาดหุ้นไทย (SET) มีโอกาสอ่อนตัวจากแรงขายลดเสี่ยงก่อนประชุมเฟด และรายงาน GDP สหรัฐ แนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะและโมเมนตัมกำไรดี หุ้นเด่นวันนี้ KKP, PTTEP

วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์หรือ บล.ไทยพาณิชย์ ประเมินแนวโน้มดัชนีหุ้นไทย (SET) มีโอกาสอ่อนตัว จากแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนการประชุมเฟด 26-27 ก.ค. และรายงาน GDP สหรัฐในไตรมาส 2 ในวันที่ 28 ก.ค. ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว SET ปิดทำการในช่วง Long Weekend

ด้านกรอบบนอยู่ที่แนวต้าน 1,565-1,570 จุด ซึ่งมอง Upside เริ่มจำกัดในระยะสั้น ด้านกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1,535-1,545 จุด

ประเด็นสำคัญวันนี้

ราคาข้าวสาลีตลาดโลกพุ่งขึ้น หลังรัสเซียโจมตีท่าเรือโอเดสซาของยูเครน ขณะที่รัสเซียระบุโจมตีเป้าหมายทางทหาร ไม่กระทบต่อการส่งออกธัญพืชของยูเครน

ขณะที่นักลงทุนคาดธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้าเพื่อบรรเทาผลจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ส่งผลต่อต้นทุนทางการเงิน กระทบต่อค่าจ้างแรงงาน และ เศรษฐกิจถดถอย

ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตรียมลดคาดการณ์ GDP โลกปีนี้ลงอย่างมีนัยฯ ในเดือนนี้ จากเดิม 3.6% เมื่อ เม.ย. ผลกระทบจาก เงินเฟ้อพุ่งสูง และความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย

สำหรับกลยุทธ์เรามองช่วงสั้นยังยากที่จะคาดหวังการฟื้นตัวแรงของตลาดหุ้นไทย เนื่องจากภาพใหญ่เศรษฐกิจทั่วโลกยังกดดันและคาดเริ่มเห็นเงินเฟ้อที่สูงขึ้นส่งผลกระทบเชิงลบต่อกำลังซื้อ อีกทั้งสัปดาห์นี้ยังมีความเสี่ยงที่ต้องจับตา ได้แก่ ท่าทีของเฟดจากการประชุมนโยบายการเงิน (28 ก.ค.) และท่าทีของรัฐบาลจีนต่อการควบคุม COVID-19 หลังตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นคุณภาพที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ และ/หรือ โมเมนตัมกำไรดี

หุ้นเด่นวันนี้ บล.ไทยพาณิชย์ แนะนำ ดังนี้

– KKP หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร มีมุมมองเชิงบวกจากการปรับเพิ่มเป้าเติบโตของสินเชื่อปีนี้ คาดโตสูงสุดในกลุ่มธนาคาร และปรับลดเป้า NPL และ credit cost ลง คาดกำไรปี 2565 เติบโต 18% YoY ราคาปัจจุบันมี valuation ที่น่าสนใจด้วย PBV 0.9 เท่า เทียบกับ ROE 13.98% และ PE 7.3 เท่า ในปี 2565

– PTTEP หรือ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) คาดผลประกอบการไตรมาส 2/65 แข็งแกร่ง ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังมีปัจจัยหนุน จากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น และเป้าปริมาณขายที่ปรับขึ้น ผลกระทบจากสัญญาป้องกันความเสี่ยงส่วนใหญ่บันทึกตามราคาตลาดแล้ว คาดกำไรปีนี้โต 122% YoY ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE65 เพียง 6.6 เท่า