เช็กกระแสหุ้น
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา เปิดทำการแค่ 3 วัน (25-27 ก.ค.) โดย “สรพล วีระเมธีกุล” ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นค่อนข้างดี แม้จะปิดทำการไป 2 วัน แต่ก็มีเซนติเมนต์จากตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค หรือทั่วโลกที่มีการปรับตัวขึ้น
หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาดที่ 0.75% ทำให้ตลาดเริ่มที่จะตอบรับข่าวในเชิงบวกได้บ้าง เพราะรับรู้ข่าวร้ายไปเยอะพอสมควร
- กรมอุตุฯเตือน 6-12 พ.ค.นี้ ลมเปลี่ยนทิศ-แปรปรวน ฝนตกหนัก ท่วมฉับพลัน
- ศุภวุฒิ สายเชื้อ : แบงก์ชาติเป็นหน่วยงานรัฐ กฎหมายไม่มีคำว่า “อิสระ”
- เปิดราคา Trade In “iPad” ก่อนเปิดตัวรุ่นใหม่ ลดสูงสุด 23,200 บาท
ขณะที่สถานการณ์ระหว่างรัสเซียกับยูเครนก็เริ่มดูดีขึ้นในระดับหนึ่ง รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศไทยในไตรมาส 2 ที่ทยอยรายงานออกมา ก็มีภาพรวมที่ดูดี และสถานการณ์ค่าเงินบาทที่เริ่มกลับมาแข็งค่า ขณะที่ในฝั่งของนักท่องเที่ยวที่เป็นปัจจัยหลักของการสนับสนุนการเติบโตของ GDP ในครึ่งปีหลังของไทยก็เริ่มดูดีขึ้นเช่นกัน
ส่วนตัวเลข GDP สหรัฐไตรมาส 2 ที่รายงานออกมา หดตัว -0.9% ทางสหรัฐก็ไม่ได้มีความกังวลมากนัก โดยยังเชื่อว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง ทำให้คาดว่าในการประชุมขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไปเฟดอาจไม่ขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง ฉะนั้นจึงเห็นได้เลยว่า ตลาดหุ้นเริ่มที่จะมีการตอบรับในเชิงบวกมากขึ้น
มองไปในสัปดาห์ข้างหน้านี้ (1-5 ส.ค.) “สรพล” วิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นไทยน่าจะยังคงตอบรับในเชิงบวกอยู่ และมีโอกาสที่จะ sideway up ได้ โดยประเมินกรอบดัชนีไว้ที่บริเวณ 1,555-1,585 จุด ซึ่งปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตาม รายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มพลังงาน รวมถึงโรงกลั่น ที่จะทยอยรายงานออกมาในช่วงสัปดาห์นี้
ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้เริ่มทยอยขายหุ้นทำกำไรใน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มหุ้นโรงไฟฟ้า อย่าง GPSC กับ BGRIM กลุ่มที่ปรึกษาด้านดิจิทัล อย่าง BE8 กับ BBIK และสุดท้ายกลุ่มธนาคารและการเงิน อย่าง KKP กับ MTC
