หนุ่มอเมริกันพาสุนัขเพื่อนรัก เดินรอบโลก 47,721กม. นาน 7 ปี 6 ทวีป

เดินรอบโลก
Tom Turcich and Savannah, Urgup, Turkey, 2020

6 ขาตะลอนทัวร์ เดินรอบโลก หนุ่มอเมริกันกับสุนัขคู่ใจ สร้างสถิติและเรื่องราวให้ผู้คนประทับใจ ชายหนุ่มเผยเบื้องหลังมาจากการสูญเสียเพื่อนรักในอุบัติเหตุ จนรู้สึกว่า ชีวิตนี้สั้นนักควรต้องทำอะไรที่ฝันไว้

วันที่ 7 กรกรฎาคม 2565 รายการ Good Morning America หรือ GMA เผยแพร่เทปสัมภาษณ์หนุ่มอเมริกันและสุนัขคู่ใจ ที่พากันออกเดินไปทั่วโลก ด้วยระยะทาง 29,826 ไมล์ หรือ 47,721 กิโลเมตร ด้วยเรื่องราวประทับใจและสุดพิเศษของทั้งคู่

ทอม เทอร์ชิก จากรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ขึ้นแท่นเป็นคนที่ 10 ที่เดินทางรอบโลก และพิเศษตรงที่มีสุนัขชื่อ ซาวันนาห์ ร่วมทางด้วย

เทอร์ชิกและซาวันนาห์ เพื่อนซี้สี่ขาเพศเมีย ได้รับการต้อนรับกลับบ้านอย่างยิ่งใหญ่ มีครอบครัวและเพื่อนฝูงของทูร์คิค รวมทั้ง คนที่ร่วมยินดีมากันคับคั่ง จากนั้นชายหนุ่มและสุนัขได้รับเชิญไปออกสื่ออย่างต่อเนื่อง

เทอร์ซิกยังเปิดใจกับ ซีเอ็นเอ็น ว่า หลังจากเดินทาง 7 ปี ระยะทางเกือบ 48,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางไกลที่สุดเท่าที่เคยเดินทาง เขาเองเคยจินตนาการถึงวันสุดท้ายของการเดินทางไกล และเมื่อเกิดขึ้นได้จริง ๆ มีคนมากมายยืนเรียงรายริมถนนและเดินเข้ามาหา ทำให้โล่งใจมาก สิ่งนี้ครอบงำชีวิตมา 15 ปี และในที่สุดก็สำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ

สำหรับแรงบันดาลใจให้เดินทางรอบโลก ชายหนุ่มเผยว่า จากความสูญเสีย แอนน์ มารี เพื่อนที่รู้จักกันมานานจากไปด้วยอุบัติเหตุเจ็ตสกีเมื่อปี ค.ศ.2006 ขณะอายุได้ 17 ปี

“เธอเป็นคนดีกว่าผมมากและทำให้คิดว่าสักวันหนึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับตัวผมเองก็ได้”

เหมือนฟอร์เรสต์ กัมป์

มีคนเปรียบเทียบว่า การเดินท่องโลกของเทอร์ชิก คล้ายกับฟอร์เรสต์ กัมป์ (Forrest Gump  ปี 1994) ตัวละครที่ทอม แฮงส์ สวมบทบาท ซึ่งเทอร์ซิกเผยว่า มาจากการอ่านเรื่องราวของสตีเฟน นิวแมน ผู้อยู่ในบันทึกของ กินเนสส์ เวิลด์ เร็กคอร์ด ในฐานะบุคลคนแรกที่เดินรอบโลก และ คาร์ล บุชบีย์ นักผจญภัยเดินรอบโลกมาตั้งแต่ปี 1998 (พ.ศ.2541)

เทอร์ชิกเริ่มเกิดความคิดว่าตัวเองจะลองทำบ้าง จึงตัดสินใจว่าจะออกเดินทางแสวงหาการผจญภัยในชีวิตและเริ่มมองโลกที่ต่างออกไปจากเดิม

“การเดินเหมือนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจโลกและผลักดันให้ไปสู่สถานที่ใหม่ ๆ ไม่ใช่เพียงอยากไปปารีสหรือมาชู ปิกชู แต่ต้องการเข้าใจโลกและเห็นว่าผู้คนใช้ชีวิตอย่างไรในแต่ละวัน”

เมื่อตั้งใจแล้วก็เริ่มวางแผนการเดินทางและหาเงินทุนสำหรับการเดินทาง

ดีจริงๆ ที่มีสุนัขอยู่ร่วมทางด้วย / Tom Turcich

ชายหนุ่มทำงานในช่วงฤดูร้อนระหว่างเรียนหนังสือซึ่งเก็บเงินได้มากพอที่จะใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนได้ 2 ปีและย้ายกลับไปอยู่กับพ่อแม่ หลังจบการศึกษา

ก่อนออกเดินทางไม่นานนัก บริษัทท้องถิ่น ฟิลาเดลเฟีย ไซน์ ทราบข่าวว่าเทอร์ชิกจะเดินทางรอบโลกจึงออกเงินสนับสนุนให้เพราะนักธุรกิจคนนี้รู้จักแอนน์ มารีและครอบครัวของหญิงสาว จึงอยากจะสนับสนุนสิ่งที่ช่วยเหลือได้

หลังจากครุ่นคิดถึงการเดินทางมานาน 9 ปี เทอร์ชิกก็เริ่มออกเดินทางรอบโลกครั้งแรกในวันที่ 2 เม.ย.2015 (พ.ศ.2558) ก่อนวันเกิดครบรอบ 26 ปี เข็นรถเข็นเด็กที่ใส่อุปกรณ์เดินป่า ถุงนอน แล็ปท็อป กล้องดีเอสแอลอาร์และกล่องพลาสติกบรรจุอาหารโดยตั้งเป้าว่าจะไปทุกทวีปโดยมีปัญหาเรื่องระบบราชการให้น้อยที่สุด

เดิมทีคิดว่าน่าจะใช้เวลาเดินจริง ๆ สัก 5 ปีครึ่ง แต่ไปจบที่ 7 ปี เพราะล่าช้าเนื่องจากปัจจัย 2 เรื่อง เรื่องหนึ่งคือ ป่วยด้วยโรคติดเชื้อแบคทีเรีย ตัองใช้เวลารักษา 7 เดือน และเรื่องที่สอง คือ การระบาดของโควิด

ตลอดการเดินทาง เทอร์ซิกได้รับเชิญไปร่วมพิธีแต่งงานทั้งที่ตุรกีและอุซเบกิซสถานและเคยถูกจี้ที่ปานามา

ก่อนเดินรอบโลก เขาเคยเดินทางไปอังกฤษ ไอร์แลนด์และเวลส์ตามโครงการแลกเปลี่ยนสมัยเรียนมัธยมและเคยไปเที่ยวแคนาดากับโดมินิกัน อีกทั้งมีประสบการณ์เดินป่าไม่มากนัก เคยเดินป่ากับเพื่อน 10 วันและเดินป่าช่วงสุดสัปดาห์ไม่กี่ครั้ง

เดินลำพัง4เดือนก่อนมีคู่หู

เริ่มด้วยการเดินจากนิวเจอร์ซีย์ไปปานามาตามลำพังนาน 4 เดือน ก่อนได้ซาวันนาห์ สุนัขเพศเมียจากศูนย์สงเคราะห์สัตว์ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เป็นเพื่อนร่วมทาง

แม้ไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงสุนัขตั้งแต่แรก แต่การมีซาวันนาห์ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ล้มตัวลงนอนในที่ตั้งแคมป์และตื่นขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินเสียงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเพราะมีเพื่อนขนฟูเป็นเพื่อนเฝ้ายามตอนกลางคืน สะวันนาห์เยี่ยมยอดมาก ดีมากที่มีคนมาร่วมแบ่งปันเวลาด้วย

Tom Turcich

เมื่อไปถึงปานามา ทั้งคู่บินข้ามดาเรียน แก๊ป ป่าที่เต็มไปด้วยอันตรายระหว่างปานามากับโคลอมเบีย

หลังจากใช้ชีวิตบนถนน 1 ปี ทูร์คิคตั้งบัญชีเพื่อรับบริจาคผ่านแพลตฟอร์ม Patreon ให้ผู้ติดตามช่วยเหลือเงินค่าเดินทาง

เวลาส่วนใหญ่ใน 2 ปี หมดไปกับการเดินจากโบโกตา โคลอมเบียไปอูรูกวัยและขึ้นเรือไปแอนตาร์กติกาซึ่งระหว่างนี้ต้องกลับบ้านเพื่อไปเอาเอกสารเดินทางไปยุโรปกับซาวันนาห์

เมื่อถึงยุโรปแล้ว ทั้งคู่เดินข้ามไอร์แลนด์ไปสกอตแลนด์ แต่ต้องหยุดเดินเพราะอาการป่วยจนเกือบถอดใจ ต้องนอนโรงพยาบาลหลายสัปดาห์และกลับบ้านไปรักษาที่สหรัฐ

เคยคิดทำไมต้องมาลำบาก

ก่อนที่จะเริ่มเดินทางอีกครั้งเมื่อเดือน พ.ค. ปี ค.ศ.2018 ไปโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งต้องมีจิตใจและร่างกายที่เข้มแข็งพราะการเดินทางคนเดียวต้องเป็นเพื่อนตัวเอง

บางครั้งเคยคิดว่าทำไมมาทำอะไรที่นี่ ทั้งที่อยากจะอยู่กับครอบครัวและเพื่อนๆ แต่กลับมาเดินตากฝนอันหนาวเหน็บในเยอรมนี แต่ไม่เคยคิดเลิก ก่อนหน้าที่จะเดินจริงๆ คิดว่าคงจะเดินสัก 8 ปี แล้วจะมาเลิกหลังจากเดินได้ไม่กี่ปีได้อย่างไร

กระทั่งเดินไปตามเส้นทางแสวงบุญ Camino de Santiago ในสเปน ฝรั่งเศสและโปรตุเกส ทำให้เริ่มรู้สึกเปี่ยมล้นด้วยความทรงจำและพร้อมที่จะเดินทางอย่างเต็มที่

เดินรอบโลก
คู่ซี้นอนกลางดินกินกลางทรายที่โมร็อกโก / Tom Turcich

ทูร์คิคและซาวันนาห์ข้ามแอฟริกาเหนือ เดินผ่านโมรอคโค อัลจีเรียโดยมีตำรวจคอยอารักขาและตูนิเซีย

จากนั้น ไปอิตาลี สโลเวเนีย โครเอเชีย มอนเตเนโกร อัลบาเนีนยและกรีซ แล้วมุ่งหน้าไปตุรกีซึ่งทูร์คิคเป็นพลเรือนคนแรกที่ได้รับอนุญาตให้เดินข้ามสะพานบอสฟอรัส แล้วไปยังจอร์เจีย ซึ่งอยู่ระหว่างรัสเซียและตุรกีในเทือกเขาคอเคซัส

ต่อมาไปอาเซอร์ไบจานตั้งอยู่บริเวณพรมแดนของยุโรปตะวันออกและเอเชียตะวันตกขณะที่เกิดโรคระบาดทำให้อยู่ในอาเซอร์ไบจานเป็นเวลาอย่างน้อยหกเดือนโดยปริยาย

โควิดทำให้ต้องเปลี่ยนแผน

เทอร์ชิกกล่าวว่าซึ่งเดิมทีตั้งใจจะเดินทางผ่านอุซเบกิสถาน คีร์กีซสถาน คาซัคสถาน มองโกเลีย ก่อนบินไปออสเตรเลีย แล้วเดินทางกลับสหรัฐ แต่ด้วยมาตรการจำกัดการเดินทางช่วงโควิดระบาด จึงต้องทิ้งแผนไปออสเตรเลียและมองโกเลีย

บนเส้นทางสองเรา / Tom Turcich

หลังจากเดินข้ามคีร์กีซสถาน ประเทศเล็ก ๆ ในเอเชียกลางที่มีพรมแดนติดกับจีน เทอร์ชิกและซาวันนาห์ก็บินไปซีแอตเทิลในเดือน ส.ค. ปี ค.ศ.2021 และเริ่มเดินทางกลับบ้านที่นิวเจอร์ซีย์

จากสถานที่ทั้งหมดที่เคยไประหว่างการเดินทาง รัฐไวโอมิงซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรน้อยที่สุดในสหรัฐฯ เป็นสถานที่ที่ยากที่สุด มีแต่ความรกร้าง ทั้งคู่ต้องเดินตลอดสัปดาห์โดยไม่เห็นร้านค้าสักแห่งหรือคนสักคนเดียว ก่อนที่จะเดินเข้าไปในปั๊มน้ำมันเล็กๆ

ตูบเพื่อนรักพลังเยอะกว่า

ระหว่างเดินรอบโลก ทั้งคู่เดินข้าม 6 ทวีปและ 38 ประเทศเกินเกณฑ์ที่กินเนสส์ เวิลด์ เร็คคอร์ด กำหนดไว้ว่าการเดินรอบโลกต้องสะสมระทางอย่างน้อย 30,000 กิโลเมตรและข้าม 4 ทวีป

แต่ละวัน เทอร์ชิกและซาวันนาห์เดินเป็นระยะทางประมาณ 29-38 กิโลเมตร

ซาวันนาห์พลังเยอะกว่า หลายครั้งที่เดินผ่านทะเลทราย เทอร์ชิกหมดแรงล้มลง แต่ซาวันนาห์ไปคาบกิ่งใม้มาชวนเล่น

เดินรอบโลก
ซาวันนาห์ อยู่กับนายหนุ่มที่เท็กซัส สหรัฐ / Tom Turcich

เมื่อกลับมาสู่แผ่นดินเกิด เทอร์ชิกอยากจะจบการเดินทางให้เสร็จเร็วๆ และกลับมาใช้ชีวิตปกติ เมื่อจบภารกิจแล้ว แทบจะรอที่จะกลับมาไม่ไหวและพร้อมที่จะไปเที่ยวกับเพื่อนและครอบครัวอีกครั้งโดยไม่ต้องเก็บเต็นท์ทุกเช้า

ขณะที่ครอบครัวของแอน มารี เพื่อนผู้ล่วงลับอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ในงานเลี้ยงกลับบ้าน

หนุ่มนิวเจอร์ซีย์กล่าวว่าไม่จำเป็นต้องทำให้กับแอนน์ มารี แต่เธอเป็นคนจุดประกายและแรงบันดาลใจเบื้องหลัง การเสียชีวิตของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้เขามีชีวิต

ปัจจุบัน เทอร์ชิกกลับบ้านเกิดแล้วและสนุกสนานกับการติดต่อพบปะเพื่อนฝูง อยู่กับครอบครัวและแฟนซึ่งพบกันตอนขากลับ

แม้อยากไปมองโกเลียซึ่งไม่ได้ไปเพราะโควิดระบาด แต่ทูร์คิคไม่คิดที่จะพาซาวันนาห์ไปด้วยเพราะต้องเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นระยะทางไกล อาจจะไปสักวันหนึ่งหรือไม่ก็ได้

ของีบหน่อยนะ / Tom Turcich

ตอนนี้ หนุ่มนักเดินทางตั้งใจจะเขียนบันทึกความทรงจำในการเดินทาง ส่วนสะวันนาห์มีพ่อของทูร์คิคพาเดินเล่นวันละ 6.5 กิโลเมตรรอบๆ แม่น้ำทุกเช้าช่วยให้สะวันนาห์ปลดปล่อยพลัง เมื่อกลับถึงบ้านก็กระโดดขึ้นโซฟาและหลับปุ๋ย

เมื่อถามว่าอยากจะกลับไปเดินอีกไหม ทูร์คิคกล่าวว่ายังไม่คิดและไม่มีแผนที่จะไปไหนนานๆ แต่อยากจะสนุกกับการใช้ชีวิตโดยไม่ต้องเดินหรือเดินทาเพราะผ่านมาหมดแล้วจึงอยากจะอยู่ในที่ที่หนึ่งและปล่อยให้เป็นไปตามจังหวะชีวิต

……..