อธิบดีกรมชลฯ เทียบน้ำปี 54 กับ 65 ต่างกันเยอะ ขออย่ากังวล ไม่ซ้ำรอย

เลี่ยงวงเวียนบางเขน
ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก สำนักงานเขตบางเขน

อธิบดีกรมชลประทาน เทียบชัด ๆ พายุ-ปริมาณน้ำในเขื่อนปี 54 กับ 65 ต่างกัน ขออย่ากังวล ไม่ซ้ำรอย 

วันที่ 11 กันยายน 2565 จากกรณีฝนตกหนัก จนทำให้หลายพื้นที่น้ำท่วมหนัก มติชน รายงาน นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า

ปริมาณน้ำในปีนี้แตกต่างจากปี 2554 อยากเรียนเปรียบเทียบให้หายกังวลว่า กันยายนช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2554 พายุได้เข้ามาแล้ว 5 ลูก ขณะนั้นน้ำในเขื่อน 4 เขื่อนหลัก คือ ภูมิพล, สิริกิติ์, แควน้อยบำรุงแดน, ป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณรวมกันกว่า 2 หมื่นล้าน ลบ.ม. รับน้ำได้อีก 3 พันล้าน ลบ.ม.

แต่ปี 2565 ยังไม่มีพายุเลย มีหย่อมความกดอากาศต่ำ 3 ครั้ง น้ำใน 4 เขื่อนหลัก มีรวมกัน 1.3 หมื่นล้าน ลบ.ม. ยังสามารถรับน้ำได้อีกหมื่นกว่า ลบ.ม. หลังจากนี้ถ้าไปดูปี 2554 มีพายุเข้ามาอีก 3 ลูก แต่หลังจากนี้ของปี 2565 ยังไม่มีพายุ จึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ไม่น่าเกิดความกังวลมากมาย เพียงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ฝนจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถานการณ์น้ำจากกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด

นายประพิศกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กรมชลประทานทุกคน และสถานีสูบน้ำได้ทำงานอย่างเต็มที่ แต่ขึ้นอยู่กับปริมาณฝน ได้เตรียมพร้อมทั้งเครื่องไม้เครื่องไม้ และการเผชิญเหตุ โดยในส่วนของ จ.ปทุมธานี สถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ใช้บานระบายควบคู่ไปกับการสูบน้ำออกจากคลองรังสิต และน้ำลดลงเรื่อย ๆ โดยลำดับ

“น้ำที่ผ่านไปปทุมธานีเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเป็นน้ำฝนล้วน ๆ มีปริมาณฝนตกกว่า 140 มิลลิเมตร มีปริมาณน้ำ 16 ล้าน ลบ.ม. ลงคลองรังสิต ขณะที่คลองรังสิตสามารถระบายได้วันละ 6 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณฝนตกเกินกว่าความจุคลอง กรมชลประทานได้บริหารน้ำออกไปนอกเมือง ออกแม่น้ำบางปะกง ลงอ่าวไทย” นายประพิศกล่าว