
ลดความสับสน ประกาศความชัดเจนเปิดบริการรถไฟฟ้า 2 สายใหม่
ทางหน่วยงานต้นสังกัด นำโดย “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ติดตามผลการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลืองและสายสีชมพู ครั้งที่ 3/2565 เมื่อ 26 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
เหลืองเปิดใช้ก่อนชมพู
ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู มีความคืบหน้าจากไซต์ก่อสร้างเป็นอย่างมาก โดย “รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย” ตั้งเป้ากำหนดการเปิดให้บริการในปี 2566
นำมาสู่การประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพูขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การเปิดให้บริการรถไฟฟ้า 1 สายทาง จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน และสมบูรณ์แบบที่สุด ประกอบด้วย การเปิดให้บริการในด้านต่าง ๆ ทั้งในส่วนของการเชื่อมต่อการเดินทางกับระบบขนส่งอื่น การกำหนดโครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม การขอพระราชทานนามแนวเส้นทาง และการสื่อสารสาธารณะ
ข้อมูลอัพเดต ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2565 รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) มีความคืบหน้าการก่อสร้าง ร้อยละ 97.73

รฟม.ได้รับมอบขบวนรถไฟฟ้าแล้ว 29 ขบวน จากทั้งหมด 30 ขบวน กำหนดเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน 2566
ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) มีความคืบหน้าร้อยละ 94.00 ได้รับมอบขบวนรถไฟฟ้าแล้ว 39 ขบวน จากทั้งหมด 42 ขบวน กำหนดเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม 2566
ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างจัดทำ Proof of Safety เพื่อตรวจสอบและประเมินความพร้อมของงานโยธาและงานระบบไฟฟ้าทั้งหมดของโครงการ ก่อนที่วิศวกรอิสระ (ICE) จะออกหนังสือรับรองความปลอดภัย เพื่อเปิดให้บริการให้แก่ประชาชนต่อไป
สกายวอล์กสถานีหัวหมาก
สำหรับแนวทางการเร่งรัดโครงการให้เป็นไปตามแผนกำหนดการเปิดให้บริการ และแนวทางการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพูกับระบบขนส่งอื่น เช่น การก่อสร้าง skywalk เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ที่ “สถานีหัวหมาก”
ทั้งนี้ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ เป็นโครงการของ “ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย” กรณีสกายวอล์กที่จุดนี้ ได้มอบหมายให้ รฟม. เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้าง โดยให้เสนอคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) พิจารณา
รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในการรื้อย้ายสาธารณูปโภค
ซึ่งมีงานทับซ้อนกัน ณ ตำแหน่งทางขึ้นลงของสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ (สถานี PK11-PK13)
ประกอบด้วย การรื้อย้าย duct bank และแนวสายไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง และการก่อสร้างทางระบายน้ำ (flood way) ของกรมทางหลวง
เรื่องนี้ทาง รฟม.จะประสานงานกับ 3 หน่วยงานหลัก “กรมทางหลวง-การไฟฟ้านครหลวง-ปตท.” อย่างใกล้ชิด เพื่อให้แล้วเสร็จตามแผนงาน ตามแผนคาดว่าสามารถเริ่มก่อสร้างทางขึ้น-ลงได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566
กำหนด “ค่าโดยสาร”
การเปิดให้บริการ 2 รถไฟฟ้าสายใหม่ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ได้มีข้อสั่งการให้คณะอนุกรรมการด้านต่าง ๆ ดำเนินการ ดังนี้
1.คณะอนุกรรมการด้านการเดินรถ การเชื่อมต่อการให้บริการระบบขนส่ง และการประเมินคุณภาพ มีข้อสั่งการเพิ่มเติม 3 เรื่อง คือ
1.1 ให้ รฟม. ประสานงานกับ ร.ฟ.ท. เพื่อหารือเกี่ยวกับพื้นที่ที่ใช้ในการก่อสร้างทางเชื่อม (skywalk) เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่สถานีหัวหมาก และสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ สถานีหัวหมาก และเมื่อได้ข้อยุติแล้ว ให้เร่งรัดนำเสนอ คจร.ต่อไป
1.2 ให้ดำเนินการร่วมกับคณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารสาธารณะ ในการประชาสัมพันธ์เรื่องการคืนพื้นที่ผิวจราจร และการก่อสร้างทางขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู บนถนนแจ้งวัฒนะ
1.3 ให้ รฟม.กำชับผู้รับสัมปทานในด้านความปลอดภัยในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า และเตรียมความพร้อมรองรับการจราจรที่หนาแน่นช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566
2.คณะอนุกรรมการด้านราคาค่าโดยสารและบัตรโดยสาร สั่งการให้ตรวจสอบที่มา และแนวทางในการคิดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู โดยเปรียบเทียบกับวิธีการคิดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ ที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน
ขอพระราชทานนาม
3.คณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารสาธารณะ มีข้อสั่งการเพิ่มเติม 2 เรื่อง คือ
3.1 ให้ประสานข้อมูลจากคณะอนุกรรมการด้านต่าง ๆ เพื่อดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
เช่น แผนการเปิดให้บริการ แนวทางการเชื่อมต่อขนส่งมวลชนระบบอื่น ๆ รวมถึงการก่อสร้างจุดขึ้น-ลงของสถานีรถไฟฟ้าบนถนนแจ้งวัฒนะ โดยให้ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงข้อมูลอย่างกว้างขวาง
3.2 ให้ รฟม. และผู้รับสัมปทานร่วมกันหาแนวทางการประชาสัมพันธ์ผ่าน influencer ต่าง ๆ โดยให้มีการศึกษากลุ่มเป้าหมาย (target group) ที่จะสื่อสาร เพื่อให้สามารถจัดหาวิธีการนำเสนอที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และสอดคล้องกับสื่อสังคมออนไลน์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว
4.คณะอนุกรรมการด้านการเตรียมการขอพระราชทานนามแนวเส้นทางโครงการ
สั่งการให้ดำเนินการขอพระราชทานนามสำหรับทั้ง 2 โครงการ โดยปฏิบัติตามขั้นตอนและระเบียบที่เกี่ยวข้อง