กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศ 27 ก.พ.-5 มี.ค. เย็นอีกรอบ-ลมแรง ช่วง 2-5 มี.ค.

อากาศเย็น-ยอดดอย-ยอดภู
เครดิตภาพ : ORAPIN WACHANGNGOEN

กรมอุตุฯนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ช่วง 27 ก.พ.-2 มี.ค. ระบุช่วง 27 ก.พ.-1 มี.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย และไปเย็นอีกครั้งช่วง 2-5 มี.ค. กับมีลมแรง อิทธิพลจากมวลอากาศเย็นจากจีนแผ่ลงมาอีกครั้ง ยอดดอยต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส ภาคกลางรวม กทม.เย็นสุด 18-24 องศา ขณะที่ภาคใต้ตอนล่างยังมีฝนฟ้าคะนอง 40-60% ของพื้นที่

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณอากาศในช่วง 7 วันข้างหน้า หรือระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2566 ว่า การคาดหมายอากาศทั่วไปในช่วงวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค. 2566 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น

ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 มี.ค. 2566 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย กับมีลมแรง

สำหรับในช่วง 27-28 ก.พ. 2566 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

ส่วนทะเลอันดามันห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วง 1-5 มี.ค. 2566 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดช่วง สำหรับในช่วง 27-28 ก.พ. 2566 ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค. 2566 ประชาชนในบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศ 7 วัน 27 ก.พ.-2 มีนาคม

คาดหมายอากาศรายภาคระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์-5 มีนาคม  2566

ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 27-28 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว
อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 1-5 มี.ค. 66 อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 12-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 5-14 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 มี.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง เย็นสุด 18-22 องศา ช่วง 2-5 มี.ค.

ในช่วงวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 มี.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค. 66 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 มี.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 28 ก.พ.-3 มี.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
โดยในช่วงวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค. 66 มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ส่วนในช่วงวันที่ 4-5 มี.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่

ในช่วงวันที่ 27-28 ก.พ. 66 ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 1-5 มี.ค. 66 ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 27-28 ก.พ. 66 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 1-5 มี.ค. 66 ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

กรุงเทพฯและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 27 ก.พ.-2 มี.ค. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 มี.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

อากาศ กทม. 7 วัน 27 ก.พ.-5 มี.ค.