วางบึ้มหลายจุดในกทม. ‘บีทีเอสช่องนนทรี-ศูนย์ราชการฯ-พระราม9’ นายกฯยันไม่ใช้กม.พิเศษ

วันที่ 2 สิงหาคม 2562 เมื่อเวลา09.17 น. ทวิตเตอร์ จส.100 รายงานว่าเกิดเสียงดังคล้ายระเบิดหน้าอาคารมหานคร ใกล้บีทีเอสช่องนนทรี และพงหญ้าใต้บันไดบีทีเอส เศษดินกระเด็นเกลื่อนฟุตบาท จนท.ตร.กันพื้นที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ

นอกจากนี้มีผู้ใช้บริการแจ้งว่า กระจกตรงสถานีบีทีเอสช่องนนทรีแตก มีการปิดลิฟท์ และให้เดินออกแค่ไม่กี่ช่องทาง

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. มีรายงานว่า เกิดเหตุคล้ายระเบิดในศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ 2- 3 จุด โดยผู้ที่ทำงานในศูนย์ราชการฯระบุว่า ได้ยิงเสียงดังคล้ายระเบิดชัดเจนอย่างน้อย 2 ครั้ง ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และกันพื้นที่ไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้บริเวณดังกล่าวแล้ว

หลังจากนั้นเมื่อเวลา 09.00น.เศษ  เกิดเหตุระเบิดในพงหญ้าซอยพระรามเก้า 57/1 พนักงานกวาดถนน กทม.ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่ง รพ.สิรินธร

นอกจากนี้ยังมีเหตุเพลิงไหม้ร้านขายเสื้อผ้าพร้อมกัน 3 จุดช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ในพื้นที่สถานีดับเพลิงพญาไทด้วย

ทางด้าน น.ส. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาล เผยว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการและฝากสื่อสารถึงพี่น้องประชาชนว่า

“จะเห็นว่ามีคนไม่ดีสร้างสถานการณ์ก่อเหตุรุนแรงขึ้นอีกในช่วงนี้ ช่วงที่ประเทศชาติ รัฐบาลกำลังเดินหน้าด้วยดี ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ช่วยกันเฝ้าระวัง ช่วยถ่ายรูป บุคคล เหตุการณ์ ผู้ต้องสงสัยที่พบเห็น เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนต่อไป แจ้งจนท.ทหารช่วยกันเฝ้าระวัง ยกระดับการรปภ. สถานที่สำคัญ สถานที่ราชการ พื้นที่ธุรกิจ ฯลฯ เราต้องแสดงให้เห็นว่าคนไทยทุกคนจะร่วมมือกัน ไม่ให้ใครก็ตามที่มุ่งร้ายต่อประเทศชาติ มีที่ยืนในสังคมไทยได้ ต้องร่วมมือกันนะครับ”

ทางด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่ กทม.ว่า ได้รับรายงานขั้นต้น และสั่งการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า ให้ทุกสำนักงานเขตติดตามสถานการณ์ และประสานกับหน่วยงานตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อดูแลพื้นที่ รวมถึงหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ขณะเดียวกันให้เจ้าหน้าที่ของ กทม.เช่น พนักงานรักษาความสะอาด ช่วยสอดส่องความผิดปกติต่างๆ ถ้าเห็นสิ่งใดผิดปกติให้เร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนภูมิภาคยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่กำชับให้ผู้ว่าได้ดูแลพื้นที่ในลักษณะเดียวกับ กทม.โดยให้แต่ละจังหวัดใช้กำลังเจ้าหน้าที่ของทางจังหวัดและร่วมมือกับประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลความเรียบร้อย

“ผมอยากให้ทุกอย่างเรียบร้อย เพราะกระทบกระเทือนการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้ของประเทศ ดังนั้น หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ในส่วนที่เกิดขึ้นแล้วต้องจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้ ขณะที่การระวังป้องกันจะทำอย่างเต็มที่ หวังว่าคนไทยด้วยกันคงไม่ทำลายประเทศชาติ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนไทยก็ได้รับผลกระทบ อย่างน้อยเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

ขณะที่น.ส. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีกระแสข่าวและส่งต่อข้อความผ่านไลน์ถึงกรณีการประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษ อาทิ

1. แยกราชประสงค์
2. สยามสแควร์
3. อนุสาวรีย์ชัยฯ
4. อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
5. สถานีรถไฟฟ้าบนดิน + ใต้ดิน ทุกสถานี
6. สถานีรถไฟหัวลำโพง
7. สถานีขนส่งทุกแห่ง

น.ส. นฤมกล่าวว่า ล่าสุด พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. ยืนยันว่ายังไม่มีการประกาศพื้นที่ หรือเขตควบคุมพิเศษใดๆ แต่หน่วยงานด้านความมั่นคงได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ในบริเวณสำคัญทุกพื้นที่แล้ว และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนช่วยสอดส่องดูแลสิ่งผิดปกติ เพื่อความสงบปลอดภัยของในสังคมเรา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช. ) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 7/2562 ที่ สตช. กรณีระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รายงานสรุปสถานการณ์เกิดเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) 5 ครั้ง 9 จุด มีผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ถึงไม่มากแต่ “ผมรับไม่ได้”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยากฝากให้ทุกภาคส่วนแก้ปัญหาความมั่นคงแบบองค์รวม ประชาชนมีส่วนร่วม ลำพังทหารและตำรวจไม่พอ ทุกคนมีส่วนร่วม กรณีที่เกิดขึ้น ได้ใช้กล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) ตรวจภาพผู้ต้องสงสัย ซึ่งประชาชนสามารถส่งหลักฐานเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ ได้สั่งการ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี ช่วยกันทำงาน

 

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องสอบสวนว่าเกี่ยวข้อกับใครบ้าง ยังเชื่อมโยงกับกลุ่มเก่า ๆ  ซึ่งตราบใดที่มีคนไม่ดีก็จะเกิดขึ้นตอลอดเวลา ขึ้นยู่กับพวกเราว่าจะเข้มแข็งหรือไม่ พื้นที่เกิดเหตุ 9 ครั้ง 5 จุด การสืบสวนสอบสวนมีความก้าวหน้าตามลำดับ ขอร้องสื่ออย่าขยายความ อย่าไปถามคนที่ไม่เกี่ยวข้องมากหนัก

“วันนี้เรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว มีการรับรองอย่างเป็นทางการ ทั้งประเทศมหาอำนาจและประเทศอื่น ๆ และอยากให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไป เช่น จีน สหรัฐ ต่างประเทศไม่ได้รังเกียจเรา ขอให้เราอย่าไม่ทำลายกันเอง”

ผู้สื่อข่าวถามว่าให้น้ำหนักการก่อเหตุไปที่ประเด็นใด พล.อ.ประยุทธ์กล่าว เราไม่ทิ้งประเด็นใดประเด็นหนึ่ง และว่ากฎหมายปกติมีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นต้องคุมเข้มอยู่แล้วและมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น พร้อมทำเต็มที่ ทำเต็มที่ อย่าทำให้คนก่อเหตุทำสมหวัง ทุกคนต้อง Alert ๆ ๆ ทั้งในวันนี้และต่อ ๆ ไป  

ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เบื้องต้นเหตุการณ์เชื่อมโยงกันอย่างน้อย 2-3 จุด แต่ที่หัวหมากยังไม่ชัดเจน ส่วนประเด็นการก่อเหตุคืออะไรยังไม่ชัดเจน อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน

“ผู้ต้องสงสัยที่จับกุมได้ที่จ.ชุมพรเคยขึ้นมาประจวบ ฯ หัวหิน และเชื่อมโยงกับเหตุการณ์เช้าวันนี้ ลักษณะการประกอบระเบิดบางจุดเป็นระเบิดชนิดเดียวกัน”

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ไม่หนักใจ เพราะมีประสบการณ์ในลักษณะนี้มาก่อน เชื่อว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้และประชาชนให้ความเชื่อมั่นได้ ทั้งการท่องเที่ยว การลงทุน อย่าตกใจ ถึงแม้จะมีความพยามยามปล่อยข่าวว่าไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ก็ตาม

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองหรือไม่ “คนที่ถูกใช้ให้ก่อเหตุเป็นคนหน้าใหม่ ไม่อยู่ในระบบ”

“น้อยมากที่ผู้ต้องหาจะไม่ทิ้งร่องรอยไว้ ชุดเปลี่ยนหลายครั้ง ท่านไม่รู้หรอกว่าท่านไปพลาดจุดไหน ผมไม่บอกคุณหรอก”พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวทิ้งท้าย

เครดิตภาพ-จส.100


เครดิตภาพ-จส.100
เครดืตภาพ-จส.100
เครดิตภาพ-จส.100