“.th” มั่นคง-น่าเชื่อถือ ชื่อเว็บไซต์บ่งบอก “ความเป็นไทย”

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คงไม่มีเว็บไซต์ไหนที่ฮอตฮิตเท่า www.เราไม่ทิ้งกัน.com ซึ่งเปิดให้ผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท แต่ก็ปรากฏว่าหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทะเบียนประกาศแจ้งเตือนว่า เกิดเว็บไซต์ตั้งชื่อเลียนแบบมากมาย

โดยเฉพาะที่ลงท้ายด้วย “.th” มีถึง 23 ชื่อเว็บไซต์ อาทิ เราไม่ทิ้งกัน.co.th, เราไม่ทิ้งกัน.in.th

“ความจริง” ที่ควรรู้ในการจดทะเบียนโดเมนหรือชื่อเว็บไซต์ นั่นคือ แม้การจดทะเบียนโดเมนเนมเพื่อเป็นเจ้าของเว็บไซต์ต่าง ๆ จะง่ายแค่ปลายนิ้ว

โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่ลงท้ายด้วย “.com” หรือ “.net”

แต่การจะจดชื่อเว็บไซต์ให้ลงท้ายด้วย “.th” ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นชื่อโดเมนของประเทศไทย ที่ทางมูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (THNIC Foundation) ได้รับอนุมัติจาก ICANN (องค์กรที่ทำหน้าที่จัดสรรชื่อและหมายเลขอินเทอร์เน็ตของโลก) ให้เป็นผู้ดูแล และปัจจุบันได้มอบหมายให้ “บริษัท ที.เอช.นิค จำกัด” เป็นนายทะเบียนผู้ให้บริการจดทะเบียนชื่อโดเมน “.th” และ “.ไทย” เพื่อบ่งบอกความเป็นไทย

แต่จนถึงปัจจุบันนักท่องเน็ตทั่วไปก็ยังคุ้นเคยกับเว็บไซต์ที่ชื่อลงท้ายด้วย “.com” หรืออื่น ๆ มากกว่า “.th” หรือ “.ไทย” ที่มีไม่มากนัก แม้ว่าค่าบริการจดทะเบียนโดเมน co.th, in.th, ac.th, go.th, mi.th, or.th, net.th จะอยู่ที่ 856 บาทต่อปี ซึ่งถือว่าไม่แพง

ADVERTISMENT

เหตุเพราะการจะขอจดทะเบียนไม่ใช่เรื่องง่ายแค่คลิกไม่ถึง 5 นาทีเสร็จแบบ “.com” หรือ “.net”

โดยเมื่อ พ.ค. 2562 “ที.เอช.นิค” ได้ประกาศนโยบายเกี่ยวกับการจดทะเบียนชื่อโดเมน .th และ .ไทย ฉบับล่าสุด ซึ่งระบุถึงเอกสารประเภทที่จะต้องใช้เพื่อ “พิจารณา” อนุญาตให้ใช้โดเมน อาทิ “.net.th” หรือ “.เน็ต.ไทย” จะต้องใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม

ADVERTISMENT

“.in.th” หรือ “.ไทย” จะจดทะเบียนได้เฉพาะองค์กรตามกฎหมายไทย หรือบุคคลสัญชาติไทย หรือชาวต่างชาติที่มีใบอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย แม้จะอนุญาตให้ผู้ถือครองเครื่องหมายการค้าต่างประเทศจะขอจดทะเบียนชื่อโดเมน .in.th ในชื่อเดียวกับเครื่องหมายการค้าได้

แต่ก็เป็นไปเพื่อเพื่อวัตถุประสงค์ในการปกป้องสิทธิเท่านั้น ไม่สามารถใช้งานชื่อโดเมนนั้นได้

โดยเอกสารที่ใช้ กรณีสำหรับองค์กร ต้องมีหนังสือแจ้งขอจดทะเบียนชื่อโดเมน ลงนามโดยผู้บริหารองค์กร กรณีบุคคลทั่วไป ต้องมีบัตรประชาชน หนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงาน (work permit) สำหรับชาวต่างชาติ

ยิ่งถ้าเป็น “.co.th” นั่นหมายถึงต้องเป็นองค์กรธุรกิจที่จะต้องแนบ ทั้งทะเบียนการค้า ทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หนังสือบริคณห์สนธิ

ทั้งในการตั้งชื่อโดเมนเพื่อขอจดทะเบียนยังมีเงื่อนไขอีกมากที่จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด อาทิ ต้องตั้งชื่อโดเมนที่สื่อถึงองค์กรหรือโครงการอย่างชัดเจน

ที่สำคัญคือ ในกรณีที่มีการเผยแพร่ 23 เว็บไซต์ “เราไม่ทิ้งกัน” ที่ลงท้ายด้วย “.th” นั้น ทาง “ที.เอช.นิค” ออกแถลงการณ์ระบุว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเว็บปลอมดังกล่าว เพราะไม่เคยเปิดให้จดทะเบียนชื่อโดเมนด้วยชื่อ “ภาษาไทย” ที่ลงท้ายด้วย “.th”

หากจะจดทะเบียนชื่อเว็บไซต์ด้วย “ภาษาไทย” โดเมนจะต้องลงท้ายด้วยภาษาไทยเช่นกันเท่านั้น นั่นคือ “.ไทย”, “.ธุรกิจ.ไทย”, “.เน็ต.ไทย”

เรียกว่ากระบวนการกว่าจะได้ชื่อเว็บไซต์ที่บ่งบอก “ความเป็นไทย” ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ทำให้มีเว็บไซต์ที่จดทะเบียน “.th” อยู่แค่ 8% หรือราว 71,000 ชื่อเท่านั้น ส่วน “.ไทย” มีอยู่ราว 18,000 ชื่อ

แต่ความยุ่งยากทั้งมวลนั้น “ที.เอช.นิค” ระบุว่า เพื่อความปลอดภัยและน่าเชื่อถือของโดเมนเนม