สคบ. หารือหน่วยงานเกี่ยวข้อง คุมผลิตภัณฑ์จาก “ถั่งเช่า” หากพบโฆษณาเกินความเป็นจริง เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค
วันที่ 26 ม.ค. 2564 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะเชิญหน่วยงานต่าง ๆ ทั้ง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกรมการค้าภายใน เข้ามาหารือถึงแนวทางควบคุมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากถั่งเช่า ต่อยอดจากที่ กสทช. และ อย.ได้ควบคุมไปก่อนหน้านี้
นายสุวิทย์ วิจิตรโสภา รองเลขาธิการ สคบ. จะประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพื่อควบคุมเรื่องของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากถั่งเช่าทั้งหมด หมายความว่าไม่ใช่แค่เรื่องการโฆษณาทางโทรทัศน์อย่างเดียว
แต่จะครอบคลุมไปทุก ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งโฆษณา ขายตรง การประสานงาน การติดตาม และลงพื้นที่ ให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาทาง กสทช. และ อย.ได้แอ็กชั่นออกไปแล้วส่วนหนึ่ง สคบ.ก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้าไปร่วมในเรื่องนี้เช่นกัน โดยเฉพาะการกำหนดให้เรื่องนี้ทำงานเป็นยุทธศาสตร์ภาพรวมทั้งประเทศ
สำหรับการหารือ สคบ.ครั้งนี้ จะขอความร่วมมือกับทุกหน่วยงานร่วมกันทำงานเป็นทีมเดียวกัน โดยเฉพาะการเข้าไปดูแลธุรกิจประเภทนี้โดยตรง เพราะปัจจุบันผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีถั่งเช่าเป็นส่วนผสม มีการนำมาขายอย่างแพร่หลายและโฆษณาออกมาเป็นจำนวนมาก ทั้งในช่องทางของรายการทางโทรทัศน์ โฆษณาทางวิทยุ หรือทางออนไลน์ หากผลิตภัณฑ์นี้ตรวจสอบแล้วไม่มีคุณภาพจริง หรือมีการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ก็ส่งผลเสียต่อสังคม เพราะถือเป็นการเข้าข่ายเอาเปรียบหรือหลอกลวงต่อผู้บริโภค
สำหรับการหารือครั้งนี้เมื่อได้ข้อสรุปว่าจะร่วมมือกันทำแนวทางควบคุมออกมาได้อย่างไรที่จะใช้เป็นแผนเดียวกัน จากนั้น สคบ.จะรวบรวมข้อมูลการประชุมครั้งนี้ เสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่มีนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานรับทราบ และสั่งการในที่ประชุมเพิ่มเติม ต่อไป