เปิดรายชื่อต่างชาติ ยื่นมือ “ช่วยประเทศไทย” รับมือวิกฤตโควิด

ประยุทธ์ รอรับวัคซีนซิโนแวค
FILE PHOTO : Lillian SUWANRUMPHA / AFP

สรุปจำนวนผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิต 13 วันล่าสุด

  • วันที่ 16 กรกฎาคม 2564 : ผู้ติดเชื้อ 9,692 ราย : เสียชีวิต 67 คน
  • วันที่ 17 กรกฎาคม 2564 : ผู้ติดเชื้อ 10,082 ราย : เสียชีวิต 141 คน
  • วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 : ผู้ติดเชื้อ 11,397 ราย : เสียชีวิต 101 คน
  • วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 : ผู้ติดเชื้อ 11,784 ราย : เสียชีวิต 81 คน
  • วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 : ผู้ติดเชื้อ 11,305 ราย : เสียชีวิต 80 คน
  • วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 : ผู้ติดเชื้อ 13,002 ราย : เสียชีวิต 108 คน
  • วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 : ผู้ติดเชื้อ 13,655 ราย : เสียชีวิต 87 คน
  • วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 : ผู้ติดเชื้อ 14,575 ราย : เสียชีวิต 114 คน
  • วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 : ผู้ติดเชื้อ 14,260 ราย : เสียชีวิต 119 คน
  • วันที่ 25 กรกฎาคม 2564 : ผู้ติดเชื้อ 15,335 ราย : เสียชีวิต 129 คน
  • วันที่ 26 กรกฎาคม 2564 : ผู้ติดเชื้อ 15,376 ราย : เสียชีวิต 87 คน
  • วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 : ผู้ติดเชื้อ 14,150 ราย : เสียชีวิต 118 คน
  • วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 : ผู้ติดเชื้อ 16,533 ราย : เสียชีวิต 133 คน

ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้น แต่ประเทศไทยยังขาดแคลน อุปการณ์มทางการแพทย์ รวมถึงวัคซีนอีกจำนวนมาก แต่รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจในพยายามจัดหาเพื่อฉีดให้แก่ประชาชน และให้ถึงตามเป้าที่รัฐบาลได้ตั้งเป้าไว้ นอกจากนี้ยังมีหลายประเทศได้ทยอยบริจาคอุปการณ์ทางการแพทย์รวมถึงวัคซีน ให้แก่ประเทศที่ยังขาดแคลน ซึ่งรวมประเทศไทยด้วย “ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมให้ดังนี้

ประเทศจีน

สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก (20 พ.ค.) นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยประกาศว่า สนับสนุนรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลจีนจะบริจาควัคซีน จำนวน 500,000 โดส

จากนั้น สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เปิดเผยอีกครั้งว่า รัฐบาลจีนจะบริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัท ซิโนแวค ให้แก่รัฐบาลไทยอีกจำนวน 500,000 โดส ได้ถูกส่งมาถึงประเทศไทยแล้ว (5 มิ.ย.) ทำให้รัฐบาลจีนได้บริจาควัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ประเทศไทย รวมทั้งสิ้น 1,000,000 โดส

ประเทศญี่ปุ่น

นายโทชิมิตสึ โมเตงิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยตามการงานของเว็บไซต์ นิกเคอิ เอเชีย ว่า ญี่ปุ่นจะบริจาควัคซีนโควิดให้กับหลายประเทศในเอเชีย ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าในอังกฤษ และผลิตภายใต้ใบอนุญาตในญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่น บริจาควัคซีนให้แก่ประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 1,053,090 โดส ที่ทำการรับมอบเมื่อวันที่  12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานงานรับมอบวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากรัฐบาลญี่ปุ่น

ผ่านระบบการประชุมทางไกล และมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายนาชิดะ คาซูยะ (H.E. Mr. Nashida Kazuya) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยและญี่ปุ่น

ประเทศสหรัฐอเมริกา

ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศผ่าน สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า สหรัฐอเมริกาจะบริจาควัคซีนโควิด-19 ของ “ไฟเซอร์” จำนวน 1,500,000 โดส มูลค่า 30 ล้านเหรียญ ให้กับประเทศไทย

พร้อมทั้งให้เหตุผล ว่าการบริจาคครั้งนี้ว่า “วัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1,500,000 โดส มูลค่า 30 ล้านเหรียญนี้มอบให้แก่ประเทศไทย พันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของเราในเอเชีย”

นอกจากนี้ พันโทหญิงลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐ เชื้อสายไทย เปิดเผยผ่านงานเสวนาออนไลน์ภายใต้หัวข้อ “U.S. and Thailand Perspectives on Geostrategic Landscape and Regional Architecture” จัดโดยสถาบัน East-West Center ในกรุงวอชิงตันและสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ว่า สหรัฐจะส่งวัคซีนให้ประเทศไทย ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านโดส ซึ่งเป็นวัคซีนลอตแรก เพราะความจริงแล้วมีทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส

สหราชอาณาจักร

นายมาร์ค กูดดิ้ง เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย แจ้งว่า อังกฤษจะเริ่มบริจาควัคซีน 9 ล้านโดส เพื่อช่วยรับมือการระบาดของโควิด-19 ในประเทศต่าง ๆ โดยแบ่งบริจาคให้โครงการโคแวกซ์ และอีกส่วนบริจาคโดยตรงให้แต่ละประเทศ รวมทั้งประเทศไทย

ขณะที่ นายโดมินิก ราบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาของสหราชอาณาจักรประกาศว่าสัปดาห์นี้อังกฤษจะเริ่มส่งออกวัคซีนโควิด-19 จำนวน 9 ล้านโดส ให้ทั่วโลกเพื่อช่วยรับมือปัญหาการระบาด โดยประเทศไทยจะได้รับบริจาคจำนวน 415,000 โดส

วัคซีนที่บริจาคนี้เป็นวัคซีนออกซฟอร์ด-แอสตร้าเซนเนก้า ผลิตโดย Oxford Biomedica และบรรจุในเมือง Wrexham ในตอนเหนือของเวลส์

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

วันนี้ (29 ก.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นผู้แทนรัฐบาลไทย ในการรับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งรัฐบาลประเทศสวิตเซอร์แลนด์บริจาคแก่รัฐบาลไทย โดยมีนางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา (H.E. Mrs. Helene Budliger Artieda) เอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ในการมอบ

ประกอบด้วย ชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit จำนวน 1.1 ล้านชุด และเครื่องช่วยหายใจ จำนวน 102 เครื่อง โดยขนส่งมาในเที่ยวบินที่ LX180 สายการบิน SWISS Air ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อ เวลา 05:20 น. ที่ผ่านมา

คืบหน้า “ไทยเข้าร่วม Covax”

ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน (27 ก.ค.) ช่วงหนึ่งของการประชุม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานเรื่องสถานการณ์การฉีดวัคซีน ว่า ในปี 2564 ไทยจะได้รับวัคซีนทั้งสิ้น 110 ล้านโดส เป็นไปตามเป้าที่ได้วางไว้ และจำนวนดังกล่าว ยังไม่ได้นับรวมวัคซีนทางเลือก อาทิ ซิโนฟาร์ม หรือโมเดอร์นา แต่อย่างใด

ส่วนการเข้าร่วม Covax นั้น นายอนุทินยังชี้แจงด้วยว่า ตามหลักเกณฑ์ของปี 2564 ประเทศไทยเป็นประเทศรายได้ปานกลางถึงสูง หากจะเข้าร่วมต้องเสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังยกตัวอย่างบางประเทศที่ได้รับวัคซีนจาก Covax ว่าจำนวนที่ได้ไม่ได้มากเท่าไหร่ ที่ประเทศไทยหามาเองยังหาได้มากกว่า แต่ถ้าปีหน้า Covax มีการปรับหลักเกณฑ์อาจจะพิจารณาเข้าร่วม