“แน่งน้อย” ขอฉีดวัคซีนเข็ม 3 ยันทำงานด่านหน้า ไม่ได้รับสิทธิพิเศษ

แน่งน้อย

“แน่งน้อย” ยอมรับขอฉีดวัคซีนเข็ม 3 จริง ยันทำงานเป็นด่านหน้ามาตลอด ปฏิเสธใช้ตำแหน่งที่ปรึกษา ผู้ว่าฯ พิษณุโลก รับสิทธิพิเศษ

วันที่ 2 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสข่าวในโซเชียลจังหวัดพิษณุโลก ว่า นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ผู้ที่เคยแจ้งความดำเนินดคี มาตรา 112 กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ได้ไปขอให้เจ้าหน้าที่าธารณสุขฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้ตัวเอง อ้างว่ามีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ที่ศูนย์รับฉีดวัคซีน หอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา

ต่อมา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล เผยว่า การกระทำดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความกังวลจากบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนในเรื่องของการฉีดวัคซีน เนื่องจากประชาชนและบุคลากรด่านหน้าหลายคน ยังไม่ได้รับวัคซีนเพียงพอ แต่กลับมีคนนำชื่อและตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับผู้ว่าราชการจังหวัดไปขอวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับตัวเอง

ล่าสุด นางแน่งน้อย เผยกับมติชนถึงเหตุที่ขอฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากทำงานด่านหน้ามาโดยตลอด นำสิ่งของต่าง ๆ จากการบริจาคมามอบให้กับจุดคัดกรอง หรือโรงพยาบาลสนามมา ด้วยความเป็นผู้สูงอายุ ที่ผ่านมาการฉีดวัคซีนนั้น ตนเองมีคิวที่จะฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าอยู่แล้ว แต่ด้วยช่วงแรก ๆ ประชาชนออกมาฉีดวัคซีนน้อย จึงมาช่วยรณรงค์ให้ประชาชนหันมาฉีดวัคซีนให้มากขึ้น ด้วยการไปฉีดวัคซีนซิโนแวคแทนทั้ง 2 เข็ม

นางแน่งน้อย กล่าวอีกว่า มีแพทย์มาบอกตนเองว่าการเป็นผู้สูงอายุ ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มนั้นไม่ดี อาจเสี่ยงต่อภูมิคุ้มกันเหลือน้อย เนื่องจากเป็นผู้สูงอายุ ตนจึงได้ขอเข้าไปฉีดวัคซีนเข็ม 3 ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าไปแอบอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกบ้าง หรือไปบีบบังคับบุคลากรทางการแพทย์นั้น ยืนยันว่าไม่จริงแต่อย่างใด ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเป็นคนอ้างใครอยู่แล้ว โดยเฉพาะการทำงานก็ทำด้วยใจและทำเพื่อสังคมมาโดยตลอด

นอกจากนี้ นางแน่งน้อย ยังได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ถึงประเด็นดังกล่าว ยืนยันอีกครั้งว่า ตนได้ขอเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 จริง เพราะทำงานเป็นบุคลากรด่านหน้าจริง ๆ และไม่ได้แอบอ้างตำแหน่งแต่อย่างใด เป็นการทำในนามของตนเองทั้งนั้น

“เพราะว่าพี่ทำงานด่านหน้าตลอด รถที่พี่ไปทำงาน เอาไปรับส่งผู้ป่วย ส่งอาหาร ส่งอะไรทุกอย่าง พี่ก็ต้องกลัวเป็นธรรมดา ก็เลยไปขอว่า ขอฉีดวัคซีนเข็มสามได้ไหมคะ เขาก็ให้ความกรุณา เพราะทุกคนรู้ว่า พี่ทำงานจริง พี่ออกด่านหน้าจริง ๆ แล้วพี่อายุ 64 แล้วนะคะ พี่ไม่เคยแอบอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่เคยแอบอ้างว่าเป็น ศชอ. พี่ทำในนามส่วนตัวพี่ทั้งนั้น”

สำหรับ นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร มีบทบาททางการเมือง เป็น เลขาฯ กปปส. พิษณุโลก เคยเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก พรรครวมพลังประชาชาติไทย มีข่าวดังในสื่อมวลชนหลายครั้ง ในฐานะที่เป็นประธาน ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์หรือ ศชอ. ในการส่งหลักฐานให้ ปอท.ดำเนินดคี ม.112 นับพันเรื่องปรากฏในหน้าสื่อจากการไปดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์กับผู้ที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองทั้งบุคคลทั่วไปจนถึงแกนนำผู้ชุมนุมที่ปราศรัยบนเวทีม็อบราษฎร ม็อบเยาวชนปลดแอก เช่น ทนายอานนท์ เพนกวิน หรือรุ้ง ปนัสยา