ศบค.ปรับแผน เร่งฉีดวัคซีนกลุ่มอายุ 50 ปี จับตากลุ่มเสี่ยง “แคมป์ก่อสร้าง”

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์

ศบค.ปรับแผน เตรียมฉีดวัคซีนเร่งด่วนกลุ่มอายุ 50 ปี เหตุค่ากลางของผู้เสียชีวิตเริ่มลดลงต่ำกว่าอายุ 60 ปี สั่งจับตากลุ่มเสี่ยง ทั้งชุมชนกลุ่มแรงงานต่างด้าว ตลาดสด ตลาดนัด โรงงาน สถานประกอบการ ธนาคาร สถานีขนส่ง โฟกัสเป้าใหญ่ “แคมป์ก่อสร้าง” ระบุมาตรการคุมเข้มองค์กร Covid free Setting ยังไม่บังคับ แต่พื้นที่ไหนพร้อมขอให้ทำเลย

วันที่ 1 กันยายน 2564 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค) แถลงสถานการณ์ประจำว่า วันนี้เป็นการประกาศใช้ข้อกำหนดฉบับใหม่เป็นวันแรก สำหรับการติดเชื้อCOVID-19 ในประเทศ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 มีผู้ป่วยรายใหม่ 14,802 ราย หายป่วยแล้ว 1,013,342 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,190,668 ราย เสียชีวิตสะสม 11,747 ราย

ส่วนข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563 หายป่วยแล้ว 1,040,768 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,219,531 ราย เสียชีวิตสะสม 11,841 ราย

วันนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่จำนวน 166,922 ราย อยู่ใน รพ. 24,161 ราย อยู่ใน รพ.สนามและอื่น ๆ 142,761 ราย มีอาการหนัก 4,917 ราย และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,040 ราย

ยอดติดเชื้อใหม่ลด แต่ยอดคนเสียชีวิตยังสูงอยู่

ส่วนผู้ขอรับการฉีดวัคซีน ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2564 มีผู้รับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 393,633 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 431,777 ราย เข็มที่ 3 จำนวน 2,772 ราย และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 31 สิงหาคม 2564 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 32,600,001 โดส

“เป็นอีก 1 วันที่ตัวเลขลดลง โดยในส่วนของผู้ที่รักษาหายวันนี้มีจำนวน 18,996 ราย ซึ่งสูงกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ แต่รายงานของผู้เสียชีวิตยังคงสูงอยู่ 252 คน และในส่วนของผู้ที่ยังรักษาตัวอยู่ ตัวเลขผู้ป่วยอาการหนัก และผู้ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจยังมีตัวเลขที่ลดลงอยู่บ้าง ส่วนยอดฉีดวัคซีนอยู่ที่ 32 ล้านโดส”

แพทยหญิงอภิสมัยกล่าวว่า ในที่ประชุมวันนี้ได้มีการหารือกันจากการที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานยอดวัคซีนเข้ามาในประเทศอยู่ที่ประมาณ 40 ล้าน มียอดฉีดรวมไปแล้ว 32 ล้านโดส ในบันทึกของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งหมายความว่าอีก 8 ล้านโดส อยู่ในระบบ ซึ่งอาจมีการฉีดแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้บันทึก ก็ขอความร่วมมือจุดฉีดทุกแห่ง ทั่วประเทศขอให้ลงในระบบด้วย

สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก ข้อมูล ณ วันพุธที่ 1 กันยายน 2564 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 218,541,072 ราย อาการรุนแรง 106,153 ราย รักษาหายแล้ว 195,371,729 ราย เสียชีวิต 4,533,622 ราย

ส่วนอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 40,114,099 ราย 2. อินเดีย จำนวน 32,810,892 ราย 3. บราซิล จำนวน 20,777,867 ราย 4. รัสเซีย จำนวน 6,918,965 ราย 5. สหราชอาณาจักร 󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿จำนวน 6,789,581 ราย

ส่วนประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 29 ของโลก จากจำนวนผู้ป่วยสะสม 1,219,531 ราย

เตรียมฉีดวัคซีนกลุ่มผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปเร่งด่วน

10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม. 3,732 ราย รวมสะสม 283,282 ราย รองลงมาเป็นสมุทรปราการ 1,284 ราย ชลบุรี 879 ราย สมุทรสาคร 864 ราย ระยอง 547 ราย อยุธยา 492 ราย ราชบุรี 417 ราย นครราชสีมา 333 ราย ฉะเชิงเทรา 331 ราย นราธิวาส 313 ราย

แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้เสียชีวิตวันนี้จะเห็นว่า กทม. มีตัวเลขที่ลดลง แต่ก็ยังสูงสุด และกลุ่มผู้เสียชีวิตยังเป็นกลุ่มที่มีโรคประจำตัวและสูงอายุ สิ่งที่สำคัญและอยากเน้นย้ำวันนี้คือกรมควบคุมโรครายงานว่า ตัวเลขที่เป็นค่ากลางอายุอยู่ที่ 66 ปี แต่ถ้านับค่ากลางอายุสำหรับจำนวนผู้ที่มีอายุ 50 ปีลงไปด้วยและเสียชีวิตจะพบว่า อัตราของผู้เสียชีวิตเป็น 80%

“ทำให้กระทรวงสาธารณสุขกำลังเร่งพิจารณาที่จะเพิ่มผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเร่งด่วนด้วย” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว

ติดเชื้อใหม่ กทม.-ต่างจังหวัดเริ่มใกล้กัน

สำหรับผู้เสียชีวิตวันนี้ วันนอนนานที่สุดถึง 75 วัน ซึ่งกรมควบคุมโรคกำลังจะปรับวันที่ผู้เสียชีวิตตามวันที่เสียชีวิตเพื่อให้ตัวเลขนั้นมีความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้บางจังหวัดอาจมีการรายงานย้อนหลัง 3-4 วัน เพราะต้องเคลียร์ข้อมูลให้มีความถูกต้องก่อน

ส่วนการรายงานของกราฟผู้ติดเชื้อในภาพรวมของประเทศวันนี้ก็ยังเห็นตัวเลขของกทม.และปริมณฑล เทียบกับพื้นที่ต่างจังหวัดเริ่มใกล้เคียงกันแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้ต่างจังหวัดค่อนข้างสูง ตอนนี้กราฟค่อนข้างจะ 50 ต่อ 50 แล้ว

โดยวันนี้ภาพรวมของประเทศอยู่ที่ 14,580 ราย อยู่ในต่างจังหวัด 8,067 ราย คิดเป็นสัดส่วน 55% และอยู่ในกทม. 6,513 ราย คิดเป็นสัดส่วน 45%

ศบค.สั่งจับตากลุ่มเสี่ยง-แคมป์ก่อสร้าง

“และวันนี้มี 33 จังหวัดที่มีการรายงานยอดผู้ติดเชื้อเกิน 100 ราย แม่ฮ่องสอน หรือหลาย ๆ จังหวัดทางภาคเหนือเริ่มมีตัวเลขที่เล็กลง มีการรายงานตัวเลขเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามกระทรวงสาธารณสุขยังคงให้เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและพยายามสุ่มตรวจ ค้นหา กลุ่มเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เช่น ชุมชนกลุ่มแรงงานต่างด้าว ตลาดสด ตลาดนัด โรงงาน สถานประกอบการ ธนาคาร ศูนย์เด็กเล็ก ศาสนสถาน สถานีขนส่งสาธารณะ เป็นต้น” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่ว และว่า

นอกจากนี้ยังให้ติดตามพี่น้องประชาชน กลุ่มผู้ใช้แรงงานในแคมป์ก่อสร้างที่กลับไปรักษาตัวในพื้นที่ต่างจังหวัด และกำลังกลับมาในแคมป์ก่อสร้างใน กทม.และปริมณฑล เพื่อจะกลับเข้ามาทำงาน ขอให้มีการคัดกรองกลุ่มแคมป์ก่อสร้างเหล่านี้อย่างใกล้ชิด รวมทั้งตรวจสอบเรื่องการฉีดวัคซีนด้วย รวมถึงความเสี่ยงของสถานีขนส่งทั้งทางบก น้ำ อากาศ เพราะมีการเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่1 กันยายนนี้แล้ว

สำหรับการฉีดวัคซีนให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-30 สิงหาคม สำนักงานประกันสังคมรายงานว่า มีการฉีดไปแล้วในพื้นที่กทม.และ 10 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 1.8 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นการฉีดในแคมป์ก่อสร้างในกทม. 50,026 คน โดย กทม.จะมีการสำรวจและป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดคลัสเตอร์แคมป์คนงานขึ้นอีก โดยจะมีสำนักโยธาธิการ ร่วมกับกระทรวงแรงงาน เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว

มาตรการใหม่ยังไม่บังคับ แต่พื้นที่ไหนพร้อมขอให้ทำเลย

ส่วนมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 แนวใหม่เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ หรือ Smart Control and Living with Covid-19) นั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เน้นย้ำว่ามาตรการนี้จริง ๆ แล้วเป็นผู้ประกอบการ เป็นสมาคม สภาหอการค้า เป็นผู้ที่นำเรื่องเสนอกระทรวงสาธารณสุขเพื่อพิจารณาในการอนุญาตให้มีการเปิดกิจการ กิจกรรม ถือได้ว่าเป็นมาตรการควบคุมดรคแนวใหม่ อย่างสมดุล เพื่อให้เกิดการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างปลอดภัย

“ที่ประชุมสอบถามกันเข้ามาเยอะคือการฉีดวัคซีน และการตรวจด้วย ATK ที่จะใช้ในสถานประกอบการ หรือร้านอาหารต่างๆที่อยู่ในมาตรการ Covid free Setting ต้องเน้นย้ำว่า 1 กันยายน เป็นต้นไป มาตรการนี้ไม่ได้เป็นการบังคับ แต่ขอให้เป็นการขอความร่วมมือ พยายามให้เป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกิดกับผู้ประกอบการ เป็นการนำร่อง จังหวัดใดพร้อม พื้นที่ใดพร้อม สามารถจะดำเนินการตามมาตรการได้เลย”

สำหรับมาตรการ COVID-FREE Setting ที่ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการ ประกอบไปด้วย

  • COVID-FREE Environment : ได้แก่ระบบระบายอากาศ สุขอนามัย สะอาดปลอดภัย เว้นระยะห่าง
  • COVID-FREE Personnel : ได้แก่ การฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ และตรวจ ATK ทุกสัปดาห์
  • COVID-FREE Customer : ได้แก่ Green Card (ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์) yellow card เคยติดเชื้อ หรือ ATK เป็นลบภายใน 7 วัน

ทั้งนี้จะมีคู่มือของกรมอนามัย สามารถเข้าไปศึกษา เพื่อดำเนินการตามมาตรการที่กรมอนามัยกำหนดไว้ได้และสามารถผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้โดยง่าย

ย้ำ 1 ตุลาคมฉีดวัคซีน-ตรวจ ATK ต้องพร้อมมากขึ้น

แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวว่า ส่วนกรณีที่สอบถามกันเข้ามาเป็นจำนวนมาก และทุก ๆ ท่านหนักใจคือในส่วนของพนักงาน เจ้าหน้าที่บุคลากรที่เกี่ยวข้อง ตรงนี้มีการกำหนดว่าจะต้องมีการฉีดวัคซีน และมีการตรวจ ATK มีการตรวจหาเชื้ออย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ เรียนว่าในส่วนที่พร้อมคงเป็นจังหวัดที่ได้มีการฉีดวัคซีนมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก เช่นใน กทม.และปริมณฑล

ส่วนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดอีก 23 จังหวัด อาจจะยังไม่พร้อมก็คงต้องขออภัยและยังไม่มีการบังคับถ้ายังไม่พร้อม ก็อาจจะต้องรอเรื่องการกระจายวัคซีน รอขอความช่วยเหลือจากภาคัฐ ซึ่งเราปักธงว่าจะเป็นวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งจะมีความพร้อมกันมากขึ้น

“วันนี้ไม่พร้อม แต่เราจำเป็นต้องเริ่ม เพื่อให้เห็นทิศทางและต้องเตรียมความพร้อมในวันข้างหน้าอย่างไร ส่วนผูใช้บริการ หรือลูกค้า บางจังหวัดก็อาจจะต้องผ่อนผันไปก่อน เพราะวัคซีนอาจจะยังไม่ทั่วถึง การ การจัดหา ATK มาตรวจอาจจะยังไม่สามารถจัดหาได้ ส่วนกลุ่มที่พร้อมก็สนัสนุนให้ดำเนินการได้เลย”


แพทย์หญิงอภิสมัยยังกล่าวด้วยว่า ตามประกาศล่าสุด ไม่อนุญาตให้แสดงดนตรีในร้านอาหาร เพราะห่วงเรื่องการรวมกลุ่มคน เกรงว่าเมื่อมีดนตรีจะทำให้ฟังเพลิน อยู่นาน หรือนักดนตรีมีการเดินทางหลายแห่ง ดังนั้นขอให้รอไปก่อน