กรมขนส่งทางบกขยายเวลาเดินรถโดยสารสาธารณะ ถึง 22.00 น.

กระเป๋ารถเมล์สาย 93 ติดโควิด

กรมการขนส่งทางบกขยายเวลาเดินรถโดยสาธารณะทุกประเภท ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้บริการได้ไม่เกินเวลา 22.00 น. มีผลบังคับใช้ถึง 14 ก.ย. 64

วันที่ 3 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 32) ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2564 เพื่อใช้เป็นข้อปฏิบัติในการแก้ไขและบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้คลี่คลายลงโดยเร็ว

โดยหนึ่งในข้อกำหนดระบุว่า ระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และการขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัดทุกประเภททั่วราชอาณาจักร อนุญาตให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-21.00 น. (เวลา 21.00 น. คือ เวลาที่รถโดยสารกลับถึงอู่จอดรถ) ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด ที่เฟซบุ๊กเพจ กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News เปิดเผยคำให้สัมภาษณ์ของนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า เพื่อให้มีบริการขนส่งสาธารณะเพียงพอรองรับประชาชนในการเดินทางกลับที่พักหรือเคหะสถานภายในกำหนดเวลาดังกล่าว

ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) จึงพิจารณาขยายระยะเวลาให้ผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารประจำทาง ได้แก่ รถประจำทาง รถตู้ รถแท็กซี่ รถสองแถว รถตุ๊กตุ๊ก รถจักรยานยนต์รับจ้าง ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สามารถให้บริการเดินรถได้ไม่เกินเวลา 22.00 น. โดยมีผลบังคับจนถึงวันที่ 14 กันยายน 2564

ส่วนในการเดินทางกลับที่พักหรือเคหะสถานของผู้ขับรถ ผู้เก็บค่าโดยสาร ผู้บริการ หรือพนักงานของผู้ให้บริการรถสาธารณะที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้บริการประชาชน ให้แสดงหลักฐานประจำตัว เช่น ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ใบอนุญาตเป็นผู้เก็บค่าโดยสาร ใบอนุญาตเป็นผู้บริการ บัตรประจำตัวพนักงาน ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้

ดังนั้น กรมการขนส่งทางบกจึงกำชับผู้ประกอบการขนส่ง และผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารธารณะทุกประเภทในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวอย่างเคร่งครัด พร้อมกำชับให้พิจารณาจัดการให้บริการขนส่งสาธารณะให้เพียงพอต่อความจำเป็น และตามเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางของประชาชน

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ในสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่กระจายของเชื้อโรคโควิด-19 ในขณะนี้การให้บริการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทยังต้องดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด

เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารและผู้ขับรถ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทางในระหว่างการเดินทางต้องมีการระบายอากาศภายในรถโดยสารปรับอากาศ รถตู้โดยสารปรับอากาศ และเปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศภายในรถ และทำความสะอาดภายในตัวรถและพื้นผิวสัมผัสภายในรถด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ


กรมการขนส่งทางบก