ศบค. เคาะลดวันกักตัวผู้ติดเชื้อโควิด เสี่ยงสูง เหลือ 5 วัน เริ่ม 1 พ.ค.

เคาะลดวันกักตัว

ศบค. อนุมัติลดวันกักตัวเหลือ 5+5 กักตัว 5 วัน สังเกตอาการ 5 วัน สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูง-ผู้ติดเชื้อ เตรียมเปิดประเทศ เข้าสู่โรคประจำถิ่น

วันที่ 22 เมษายน 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ผอ.ศบค.) เป็นประธานการประชุม ศบค. ในวันนี้ โดยหนึ่งในเรื่องที่ได้รับการอนุมัติได้แก่ การลดวันกักตัวสำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงกับผู้ป่วย / ผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยลดเป็นกักตัว 5 วัน และสังเกตอาการอีก 5 วัน พร้อมทั้งตรวจหาเชื้อด้วย ATK เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป

ก่อนหน้านี้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติมีมติเห็นชอบหลักการลดวันกักตัวกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงว่า การลดวันกักตัวสอดคล้องกับทั่วโลกที่ใช้กัน ซึ่งเราดูตามระยะฟักตัวของโรคหลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อ โดยผู้กักตัวไม่ได้แปลว่า ป่วย แต่จะคำนึงว่า สัมผัสใกล้ชิดขนาดไหน ต้องดูความเสี่ยง โดยผู้กักตัวจะเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง

จากเดิมเราใช้มาตรการ 7+3 คือ กักตัวไม่พบผู้อื่น 7 วันและสังเกตอาการ 3 วันออกไปไหนได้ แต่ต้องคงมาตรการใส่หน้ากากอนามัย อย่างไรก็ตาม จากปัจจุบันโอมิครอน ระยะฟักตัวค่อนข้างสั้น และทั่วโลกการเดินทางจะลดวันกักตัวลงสำหรับผู้เดินทางข้ามประเทศ หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ จึงเห็นชอบลดมาตรการกักตัวเหลือ 5+5 โดย 5 วันกักตัวแบบ Home Isolation และอีก 5 วันออกไปไหนมาไหนได้ แต่ต้องคงมาตรการสวมใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งจากนี้จะมีการเสนอต่อ ศปก.ศบค. และ ศบค.เห็นชอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การประชุมพิจารณาความพร้อมเพื่อเข้าสู่โรคประจำถิ่น มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การพิจารณาให้บริหารจัดการโควิด-19 แบบโรคประจำถิ่น (Endemic Approach) โดยมีการจัดเตรียมแผนหลัก ๆ คือ 4 เดือน

ADVERTISMENT

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่ระยะที่ 2 คือช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม เรียกว่า Plateau คือ การคงระดับผู้ติดเชื้อไม่ให้สูงขึ้น ให้เป็นระนาบจนลดลงเรื่อย ๆ