จนท. 250 นาย เข้ารื้อรีสอร์ตไร่มะลิหอม ในภูทับเบิก 11 หลัง อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ร่วมสังเกตการณ์

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 กรกฎาตม คณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติรื้อถอนรีสอร์ตภูทับเบิกประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้, ตำรวจ, ทหาร, ตชด.ที่ 31 กำลัง อส. พร้อมตัวแทนจาก พม.จังหวัด จำนวนราว 250 นาย นำโดยนายสมลักษณ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภอหล่มเก่า ได้เข้ารื้อถอนรีสอร์ตไร่มะลิหอม หมู่ 16 ต.วังบาล หลังจากครบกำหนดเวลาตามคำสั่งให้รื้อถอนเองภายใน 30 วัน และให้โอกาสอีก 7 วัน แต่ทางเจ้าของรีสอร์ตเพิกเฉยไม่ยินยอม โดยระหว่างการรื้อถอนนายยุพราช บัวอินทร์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์และคณะ เดินทางมาสังเกตการณ์การรื้อถอนดังกล่าว พร้อมให้กำลังใจทางเจ้าของรีสอร์ต

ทั้งนี้ ก่อนคณะเจ้าหน้าที่จะลงมือรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างนายยุพราชพร้อมนายบุญธรรม ทองยศ สามีนางสุริยา แก้วมงคล เจ้าของรีสอร์ต ได้พบนายสมลักษณ์ พร้อมชี้แจงแสดงจุดยืนและไม่เห็นด้วยกับการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ต แต่ไม่ขัดขืนหรือขัดขวางคำสั่ง คสช.ที่ 35/59 และมาตรา 44 โดยให้เหตุผลว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศโดยผู้เชี่ยวชาญจากกรมแผนที่ทหารว่า พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ป่าหรือไม่ เนื่องจากชาวบ้านอยู่อาศัยทำกินมาก่อนจะมีการประกาศเป็นพื้นที่ป่า และหากผลการพิสูจน์ออกมาว่าไม่ใช่เป็นพื้นที่ป่า ก็จะต้องดำเนินคดีต่อคณะเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการรื้อถอนในครั้งนี้

โดยนายสมลักษณ์กล่าวชี้แจงว่า ในฐานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามคำสั่ง คสช.และมาตรา 44 รวมทั้งตามมติของทางคณะกรรมการตามมาตรการแก้ไขการครอบครองและใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าภูทับเบิก ฉะนั้น วันนี้จึงต้องดำเนินการรื้อถอนต่อไป จากนั้นสั่งการให้คณะเจ้าหน้าที่เดินหน้าลงมือขนย้ายทรัพย์สินออกจากอาคารบ้านพักจำนวน 11 หลัง ก่อนจะลงมือระดมทุบรื้ออาคารสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว โดยนายสมลักษณ์กล่าวย้ำว่า ต้องการให้การรื้อถอนเสร็จสิ้นภายใน 2 วันนี้

ข่าวแจ้งว่า สำหรับการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างทั้ง 11 หลังของคณะเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ เน้นใช้แรงงานจากเจ้าหน้าที่เป็นหลักรวมทั้งใช้อุปกรณ์เครื่องมืออาทิ ค้อน ค้อนปอนด์ เหล็กชะแลง ในการทุบรื้ออาคารสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว โดยไม่มีการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้ารื้อถอนเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ ระหว่างการรื้อถอนมีนายบุญธรรม ทองยศ สามีนางสุริยา แก้วมงคล เจ้าของรีสอร์ต คอยสังเกตการณ์ พร้อมใช้มือถือถ่ายภาพและวิดีโอบันทึกไว้เป็นหลักฐานเป็นช่วงๆ

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์