แห่เก็งกำไร LUNC วันละหมื่นล้านบาท ดันราคาพุ่ง 500% หลังทีมพัฒนาเล็งนำระบบ Staking กลับมา พร้อมโปรแกรม Tax Burn หวังเผาเหรียญลดอุปทาน
วันที่ 8 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี สกุล Luna Classic (LUNAC) ราคาพุ่งแรงกว่า 500% ในระยะเวลา 1 เดือน จากการเคลื่อนไหวที่ระดับ 0.00005-0.00009 เหรียญสหรัฐ/LUNAC มาตั้งแต่การแยกเครือข่ายเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ปัจจุบันราคาวิ่งขึ้นมาที่ 0.00054 เหรียญสหรัฐ/LUNAC หรือคิดเป็น 500%
- เปิดคำทำนาย “นางมโหธรเทวี” นางสงกรานต์ ปี 2567 ฝนตกในโลกมนุษย์ 30 ห่า
- แคดเมียมมีดีอะไร ทำไมแค่กากยังมีคนอยากได้?
- สงกรานต์ 2567 ทางด่วนฟรี มอเตอร์เวย์ฟรี สายไหนบ้าง ฟรีถึงวันไหน
นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายในรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมา มีมูลค่าถึง 1.15 แสนล้านบาท (อ้างอิง Coin market cap) ขณะที่การซื้อขายเฉลี่ยตามกระดานเทรดอันดับหนึ่งอย่างไบแนนซ์ ปริมาณการซื้อขายในรอบ 21 วัน มีมูลค่าเฉลี่ย 1.6 หมื่นล้านบาทต่อวัน (อ้างอิง Binance : LUNAC/BUSD)
โดย LUNAC เป็นโทเค็นดั้งเดิมของระบบนิเวศ LUNA Terra ที่ประสบวิกฤตล่มสลายจนต้องแยกเครือข่ายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565
หลังจากระบบนิเวศ LUNA Terra ล่มสลาย มีการ Hard Fork หรือแยกเครือข่ายใหม่ โดยโทเค็นประจำเครือข่าย Terra ยังใช้ชื่อว่า LUNA ส่วนโทเค็นดั้งเดิมเป็น LUNAC
อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาและสาวกผู้ชื่นชอบใน LUNAC ยังไม่ลดละความพยายามที่จะแก้ไขระบบนิเวศเพื่อฟื้นฟูราคากลับมา ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดรองจากด้านความเชื่อมั่น คือ “ปัญหาอุปทาน” ที่อัลกอริทึมดั้งเดิมของ Terra ได้สร้างโทเค็น LUNAC ออกมาจำนวนมหาศาล กล่าวคือ ก่อนเกิดการล่มสลายของระบบนิเวศเหรียญ LUNA มีอุปทานหมุนเวียนต่ำสุดราว 346 ล้าน LUNA ในเดือนเมษายน 2565
หลังจากการล่มสลายของระบบนิเวศ Terra เหรียญ LUNA เพิ่มขึ้นมากว่า 6.9 ล้านล้าน LUNA (ผลพวงจากการสร้างและเผาเพื่อตรึงมูลค่าสเตเบิลคอยน์ UST) เมื่อกลายเป็น LUNAC ปริมาณอุปทานหมุนเวียนจำนวนนี้ตามมาด้วย จำนวนเหรียญที่เพิ่มขึ้นมามหาศาลนี้จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันไม่ให้ราคาของเหรียญดังกล่าวฟื้นตัวได้
แผนการลดอุปทานหมุนเวียนมีการประกาศเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ว่าระบบได้มีการอัพเกรดเพื่อรองรับการเปิดเครือข่ายผู้ตรวจสอบธุรกรรม (Validators) และมีความพร้อมที่จะนำระบบ Staking กลับมาใช้เพื่อให้ผู้คนในชุมชนนำเอาเหรียญ LUNAC จำนวนมหาศาลล็อกเข้าระบบเพื่อขับเคลื่อนธุรกรรมบนบล็อกเชนเครือข่ายเก่า (Terra Classic) และเครือข่ายใหม่ (Terra LUNA)
นอกจากนี้ยังมีการเผา Tax Burn อีก 1.2% ขณะนี้กำลังส่งข้อเสนอให้ชุมชนพิจารณา โดยคาดว่าจะมีกำหนดการ Tax Burn ที่แน่ชัดในวันที่ 20 กันยายน 2565
(ดูข้อเสนอต่อชุมชนได้ที่ https://classic-agora.terra.money/t/proposal-for-the-1-2-tax-parameter-change/46319)
แม้ผู้คนจำนวนมากจะไม่เชื่อมั่นใน LUNA แล้ว บ้างก็มองว่าเป็นโปรเจ็กต์หลอกลวง แต่ความกระตือรือร้นของนักพัฒนาและชุมชน LUNA Classic ก็เรียกได้ว่ายังไม่ยอมให้เหรียญตายง่าย ๆ และผู้คนอีกจำนวนมากก็พร้อมจะแห่เข้ามาเก็งกำไรมหาศาล จนมูลค่าตลาดของ LUNAC เติบโตจากช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. 2565 ที่ 1.3-2.8 หมื่นล้านบาท เป็น 1.19 แสนล้านบาท ตามข้อมูลจาก Coin Market Cap
