หลังจากทรู-ดีแทค ควบรวมกิจการเป็นที่เรียบร้อย หนึ่งในสิ่งที่ทั้งคู่เน้นย้ำมาตลอดถึงเป้าหมายของบริษัทใหม่ในชื่อ “ทรู คอร์ปอเรชั่น” คือ การขับเคลื่อนผลักดันให้บริษัทแห่งนี้ก้าวสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยี (เทคคอมปะนี) ที่มีศักยภาพแข่งขันกับตลาดโลก และมีบริการที่ดีตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น ล่าสุดเปิดตัวแอปพลิเคชั่นภายใต้แบรนด์ “TrueX” โดย “ทรูดิจิทัล” ซึ่งอยู่เบื้องหลังแอปพลิเคชั่นแพลตฟอร์มหลายตัวให้กลุ่มทรู ไม่ว่าจะเป็น TrueID TrueiService TrueLivingtech เป็นต้น
“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสพูดคุยกับ “เอกราช ปัญจวีณิน” หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ถึงความคาดหวังและมุมมองทรู ดิจิทัล ที่ต้องสานต่อภารกิจยกระดับบริการหลังควบรวมแล้วเสร็จ โดยเฉพาะคำถามสำคัญที่ว่า ทำไมต้องแยกแอปพลิเคชั่นออกมามากมาย รวมถึงการดึง “ลิซ่า แบล็กพิงก์” ศิลปิน Kpop ชื่อดังมาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
“เอกราช” กล่าวถึงความสำคัญของระบบนิเวศดิจิทัลของทรูที่มีความครบวงจรว่า เดิมบริการของทรูจะแยกกันอยู่จึงอาจไม่ได้รับความไม่สะดวกในการใช้ ขณะที่ปัจจุบันความต้องการของลูกค้าเป็นไปในลักษณะเฉพาะบุคคล (personalized) มากขึ้น การนำเสนอบริการจึงต้องครอบคลุม ใช้ง่าย และเฉพาะเจาะจง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป เน้นความสะดวกรวดเร็ว เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านทุกดีไวซ์ ในราคาที่ทุกคนสัมผัสได้
TrueX สานฝัน “เทคคอมปะนี”
ด้วยรวมบริการใน 6 แกน มาสร้าง 6 โซลูชั่น ในคอนเซ็ปต์ LifeOS หรือระบบปฏิบัติการของการใช้ชีวิต โดยมุ่งหวังให้ TrueX เป็นแอปหลักที่คนไทยจะใช้ประโยชน์ในการใช้ชีวิตให้สมาร์ตขึ้น ได้แก่ 1.X Home โซลูชั่นดูแลบ้าน จากเดิมอยู่ในแอป TrueLivingtech ใช้เทคโนโลยีควบคุมบ้าน เชื่อมต่ออุปกรณ์ IOT ในบ้าน ให้ทำงานร่วมกันอัตโนมัติควบคุมได้จากทุกที่
มาพร้อมระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย และระบบแจ้งเตือนเรียลไทม์ มีกล้อง CCTV เชื่อมต่อกับคลาวด์เซ็นเซอร์ตรวจจับควัน, เซ็นเซอร์ติดหน้าต่าง-ประตูตรวจจับผู้บุกรุก หลอดไฟอัจฉริยะ มินิฮับเกตเวย์ เชื่อมอุปกรณ์ IOT เป็นต้น
2.X Health โซลูชั่นดูแลสุขภาพ เดิมปรึกษาหมอผ่านแอป MorDee (หมอดี) ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยทีมแพทย์กว่า 500 ท่าน พร้อมบริการจัดส่งยาถึงบ้าน ที่เรียกดูข้อมูลสุขภาพและการรักษาที่เชื่อมต่อกับแอป และอุปกรณ์ IOT เคลมประกันค่ารักษาออนไลน์ได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย
3.X Learning โซลูชั่นเพื่อการเรียนรู้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบันที่มีแหล่งการเรียนรู้ออนไลน์จำนวนมาก จึงนำมารวมในที่เดียว ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนที่ต้องการอัพสกิลใหม่ ๆ ผ่านแพลตฟอร์ม VCourse เช่น คอร์สด้านดิจิทัล พัฒนาทักษะอนาคต การตลาดออนไลน์ ทักษะด้านภาษา เทคโนโลยี การเงิน การลงทุน เป็นต้น
4.X Utility & Energy เทคโนโลยีพลังงานทางเลือก เช่น เครื่องกรองน้ำอัจฉริยะที่สั่งการ ตั้งค่า และอ่านผลการ กรองน้ำผ่านแอป หรือ solar rooftop และ EV charger ที่ออกแบบให้เหมาะกับพื้นที่และปริมาณการใช้ไฟฟ้าของแต่ละบ้าน พร้อมติดตั้ง มีบริการหลังการขายแบบครบวงจรถึงบ้าน
5.X Shopping ช็อปปิ้ง แหล่งรวมดีลพิเศษ ครอบคลุมสินค้า และบริการไลฟ์สไตล์ ทั้งสินค้าไอที, อุปโภคบริโภค ในร้านค้าชั้นนำ
และ 6.X Entertainmentโซลูชั่นความบันเทิงที่รวบรวมอุปกรณ์ True5G โดยเฉพาะแว่น VR และคอนเทนต์ระดับ 4K ที่กำลังเป็นที่นิยม ทั้งหมดก็เพื่อทำให้ TrueX เป็นแพลตฟอร์มใหม่ สะท้อนความเป็น “เทคคอมปะนี” ที่รวมบริการต่าง ๆ จากเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างรากฐานให้คนเข้าถึงเทคโนโลยีในทุก ๆ ด้าน
เป้าหมายและการเติบโต
“เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับชีวิต และไลฟ์สไตล์ เมื่อนำมารวมกันใน TrueX จะทำให้แอปนี้เป็น all in one มีตั้งแต่เสนอขายอุปกรณ์ และโซลูชั่นให้ลูกค้า โดยเลือกสิ่งที่เหมาะกับตนเองแบบ personalized ได้ มีการบริหารจัดการหรือควบคุมอุปกรณ์ จนถึงบริการหลังการขาย ให้คำปรึกษา 24 ชม. มีบริการเปลี่ยนอุปกรณ์เมื่อชำรุด ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้บริการได้”
“เอกราช” กล่าวว่า อาจไม่สามารถระบุได้ว่าบริการใดจะเติบโต หรือสร้างรายได้ให้กลุ่มทรูชัดเจนที่สุด แต่ตั้งเป้าให้ TrueX เป็น LifeOS หรือเป็นแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคน ดังนั้นคน 1 คนอาจเลือกบริการหลายอย่าง และบริการแต่ละอย่างก็แตกต่างกันมาก ซึ่งตนมองว่า X Shopping เข้าถึงคนได้ง่ายที่สุด เช่นกันกับ X Health และ X Entertainment ที่อาจกลายเป็นที่นิยมในอนาคต จึงคาดว่ายอดดาวน์โหลด TrueX ในสิ้นปี 2566 จะไปถึง 1 ล้านดาวน์โหลด
“เราใช้การสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดผู้คนให้หันมาใช้งานมากขึ้น เพื่อเป้าหมายใหญ่ที่อยากให้เป็นแอปหลักของทรู วิธีการสื่อสารนอกจากยิงโฆษณาโปรโมชั่นต่าง ๆ แล้วก็ยังดึง ลิซ่า Blackpink” ศิลปินเกาหลีชื่อดังมาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ช่วยสื่อสารกับคนในวงกว้างมากขึ้น”
“ลิซ่า” ย้ำภาพอนาคตที่เป็นจริง
“ลิซ่า” ในฐานะเป็นศิลปินผู้ทรงอิทธิพลระดับโลกช่วยสะท้อนภาพความพิเศษของเทคโนโลยีจากบริการ TrueX ที่อยู่เบื้องหลังการดูแล และคอยอำนวยความสะดวกทั้งในเรื่องการอยู่อาศัย สุขภาพ ธุรกิจ และความบันเทิง ตอกย้ำไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตที่เป็นจริงแล้ว
อย่างไรก็ตาม “ลิซ่า” ก็เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ TrueID อีกแอปของทรูเช่นกัน ถามว่าทำไมต้องแยกออกมา “เอกราช” อธิบายว่า บริการในเครือทรู มีหลากหลายมาก และแต่ละแอปพลิเคชั่นแม้จะเป็นเครือทรู ก็มีบริการแกนหลักที่ต้องโฟกัสเป็นของตนเอง เช่น TrueiService มีแกนหลักในการให้บริการ คือการจัดการแพ็กเกจมือถือ ทั้งการเลือกซื้อ และการชำระเงิน ขณะที่ TrueID โฟกัสคอนเทนต์ หรือความบันเทิงมากกว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์ในด้านอื่น ๆ
ขณะที่การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล ที่มีอุปกรณ์ไอโอที รวมถึงบริการต่าง ๆ จำเป็นต้องมีแอปพลิเคชั่นที่ simple และมีครบทุกบริการในแพลตฟอร์มเดียว มีความ smart ที่ให้การสั่งการและแจ้งเตือนด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้เทคโนโลยีเป็นผู้ช่วย มีจุดเด่นในด้านความ seamless ช่วยให้การตั้งค่าการใช้งานทำได้ตามความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อให้เกิดประสบการณ์ในการใช้งานที่ราบรื่น สามารถนำเสนอบริการแบบ superior ที่ให้สิทธิพิเศษเหนือกว่าเดิม
“ความ seamless หรือการไร้รอยต่อเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ของบริการที่มีอุปกรณ์ไอโอที เป็นเรื่องที่บริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกต้องทำเพื่อให้การเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งาน และฮาร์ดแวร์ไม่สะดุด เช่น เทสลา เขาไม่ได้ผลิตและขายแค่รถอีวี แต่ต้องมีการซื้อและอัพเดตซอฟต์แวร์แบบไร้รอยต่อด้วย”
ย้ำ “ทรู” เป็นหนึ่งเดียว
เมื่อถามว่าในการดำเนินการร้อยเรียงบริการต่าง ๆ ขึ้นมาบน TrueX นี้ “ดีแทค” มีส่วนร่วมอย่างไรบ้าง “เอกราช” ย้ำว่า หลังการควบรวมบริษัททำให้ มี “ทรู” เพียงหนึ่งเดียว ซึ่งการรวมกันทำให้ความแข็งแกร่งของโครงข่ายสัญญาณที่มีการใช้งานร่วมกันเพิ่มขึ้นมาก และมีฐานลูกค้าที่มีร่วมกัน ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการใช้งาน TrueX ให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ในวงกว้างได้มากขึ้น
เพื่อเดินหน้าไปสู่การทำให้เป็นแอปพลิเคชั่นหลักของคนไทย โดยในส่วนของการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IOT ต่าง ๆ ด้วยแอปพลิเคชั่น TrueX จะสามารถเชื่อมกันได้อย่างไร้รอยต่อ เริ่มกับอุปกรณ์ที่ “ทรู” ทำตลาดอยู่ในขณะนี้ และจะพัฒนาให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IOT แบรนด์อื่น ๆ ให้ได้ด้วย เพื่อรองรับการใช้งานที่ครอบคลุมและหลากหลายมากขึ้น
ผู้บริหารทรูทิ้งท้ายอีกว่า ความตั้งใจที่มากไปกว่าการยกระดับองค์กรสู่ความเป็น “เทคคอมปะนี” เต็มรูปแบบ คือการเป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญในการนำเทคโนโลยีมายกระดับชีวิตความเป็นอยู่ สนับสนุนธุรกิจ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
