JAS แจงความคืบหน้าดีลขาย 3BB

JAS JASIF

JAS แจงกรณีตลาดหลักทรัพย์ฯขึ้นเครื่องหมาย “C” หลังประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2566 เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว ทั้งนี้ ผู้ลงทุนยังคงซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทได้ด้วยบัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance)

วันที่ 12 พฤษภาคม 2566 นายสุพจน์  สัญญพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ “JAS” เปิดเผยว่า เหตุที่ส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทลดลงต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของทุนชำระแล้วในไตรมาส 1 ปี 2566

เนื่องจากรายได้หลักจากธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตลดลง จากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ค่าใช้จ่ายปรับเพิ่มสูงขึ้นจากการขึ้นอัตราค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสง (OFC) ของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ “JASIF”

อีกทั้งธุรกรรมการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ “3BB” ให้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ “AWN” เสร็จไม่ทันภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2566

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ธุรกรรมการจำหน่ายเงินลงทุนใน 3BB ให้แก่ AWN ที่มีมูลค่า 32,420 ล้านบาท ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) คาดว่าน่าจะได้รับการอนุมัติภายในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งหลังจากนั้นบริษัทสามารถบันทึกกำไรจากธุรกรรมดังกล่าวและมีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างมาก

จะส่งผลให้มีสถานภาพทางการเงินที่เข้มแข็ง และลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ตาม Roadmap ที่วางไว้ได้ อาทิ ธุรกิจพลังงานสะอาด (JASGREEN) ธุรกิจให้บริการการดูแลสุขภาพแบบดิจิทัล (JAS Care) ตลอดจนธุรกิจต่าง ๆ ของ กลุ่มบริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “กลุ่ม JTS”

ได้แก่ ธุรกิจสินทรัพย์ ดิจิทัล และเทคโนโลยี โซลูชั่น ที่เน้นการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเหมืองขุดบิตคอยน์ โดยมีการลงทุนใน Solar Farm ขนาด 3.8 MWatt เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าในการทำเหมืองขุดบิตคอยน์ และสร้างรายได้เพิ่มจากการขายคาร์บอนเครดิต

นอกจากนี้ JTS ยังมีธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการทำเหมืองขุดบิตคอยน์ อาทิ ธุรกิจ FinTech เพื่อให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ ผ่านเครือข่าย Lightning Network ของบิตคอยน์ ที่จะช่วยให้การโอนเงินระหว่างประเทศมีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยและมีค่าใช้จ่ายที่ลดลง จึงขอให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทั่วไป มั่นใจได้ว่าบริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงต่อไป