“NVIDIA” ยักษ์ผู้ผลิตการ์ดจอ ลุยพัฒนาฮาร์ดแวร์และโครงสร้างพื้นฐาน รับการเติบโตของธุรกิจคลาวด์และ AI หลังรายได้ Q2 ปีงบประมาณ 2567 โตจากปีก่อนหน้า 101%
วันที่ 24 สิงหาคม 2566 นายเจนเซ่น หวง (Jensen Huang) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ “เอ็นวิเดีย” (NVIDIA) ยักษ์ผู้ผลิตหน่วยประมวลผลทางด้านกราฟิก (GPUs) กล่าวว่า การเติบโตของ AI จะคงอยู่ต่อไปในปีหน้า บริษัทจึงเลือกที่จะเดิมพันครั้งใหญ่กับแผนการพัฒนาโครงสร้างทางเทคโนโลยีและการผลิตฮาร์ดแวร์ของบริษัท
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- กรมอุตุฯเตือน รับมือฝนตกหนักอีกรอบ 17-19 พ.ค.นี้ หนักสุดถึง 70% ของพื้นที่
“เราเตรียมพร้อมสำหรับการทำธุรกิจในปีนี้และปีหน้าอยู่เสมอ รวมถึงกำลังวางแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานชุดใหม่ร่วมกับบริษัทผู้พัฒนาศูนย์ข้อมูล (Data Center) และระบบคลาวด์ (Cloud Computing) ด้วย”
นายเจนเซ่นให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า 2 สิ่งที่ผลักดันให้ NVIDIA พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในบริษัทครั้งใหญ่ คือการใช้ชิปของ NVIDIA เป็นขุมพลังการประมวลผลของศูนย์ข้อมูลแทนการใช้โปรเซสเซอร์กลาง (Central Processor) แบบในอดีต และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ AI ที่เป็นผู้ช่วยสำคัญในทุกภาคส่วนของการทำงาน ตั้งแต่การร่างสัญญาทางกฎหมาย ไปจนถึงการสร้างสื่อการตลาด
“ทั้งสองสิ่งจะอยู่เบื้องหลังทุกสิ่งที่เราเห็นและใช้งาน ซึ่ง NVIDIA สามารถเข้าไปอยู่ในตลาดที่เกี่ยวข้องกับ 2 สิ่งนี้ได้ประมาณ 1 ใน 4 แล้ว”
NVIDIA ถือเป็นบริษัทที่เกือบจะผูกขาดในตลาดอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการพัฒนา AI ซึ่งยักษ์ใหญ่อย่าง “ไมโครซอฟท์” (Microsoft) เคยกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในไตรมาส 4 ตามปีงบประมาณ 2566 จำนวน 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสัดส่วนที่ใช้ไปกับการซื้อฮาร์ดแวร์ของ NVIDIA ค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ รายได้ในไตรมาส 2 ตามปีงบประมาณ 2566 ของ NVIDIA (สิ้นสุด ณ ก.ค. 2566) อยู่ที่ 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 88% และช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 101% ซึ่งรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Data Center อยู่ที่ 1.03 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 141% และช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 171%
โดยรายงานงบการเงินของ NVIDIA ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้รายได้จากกลุ่มธุรกิจ Data Center เติบโตอย่างก้าวกระโดดมาจากความต้องการของลูกค้าที่เป็นผู้ให้บริการคลาวด์และอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ของโลก รวมถึงหลายบริษัทยังใช้เทคโนโลยีของ NVIDIA ในการพัฒนาโมเดล AI ของตนเองด้วย เช่น SoftBank ยักษ์โทรคมนาคมและการสื่อสารจากญี่ปุ่น จะสร้างแพลตฟอร์มสำหรับแอปพลิเคชั่น Generative AI และ 5G/6G ที่ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ “NVIDIA DGX GH200” ในการพัฒนาโมเดล AI
ทั้งนี้ รอยเตอร์ยังรายงานด้วยว่า ราคาหุ้นของ NVIDIA เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าในปีนี้ และคาดว่าแตะระดับสูงสุดตลอดกาล (All-time High) หลังจากนักลงทุนรับทราบผลประกอบการของบริษัทที่ประกาศเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2566 ตามเวลาสหรัฐ
