
ยักษ์ผู้ผลิตการ์ดจอ “NVIDIA” ราคาหุ้นขึ้น 7% หลังรับอานิสงส์จากการคาดการณ์ของ “Morgan Stanley” บริษัทให้บริการทางการเงินระดับโลก
วันที่ 15 สิงหาคม 2566 สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า ราคาหุ้นของ “เอ็นวิเดีย” (NVIDIA) บริษัทผู้ผลิตหน่วยประมวลผลทางด้านกราฟิก (GPUs) หรือการ์ดจอ เพิ่มขึ้น 7% ปิดตลาดที่ 437.53 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันจันทร์ที่ 14 ส.ค. 2566
- จับตาธุรกิจเลิกจ้าง ปิดกิจการ ส่งออกสะดุด-บริษัทยักษ์ย้ายฐาน
- เช็กเงื่อนไขกู้ “ออมสิน” ปลดหนี้นอกระบบ คุณสมบัติผู้กู้ต้องมีอะไรบ้าง ?
- ผู้ซื้อญี่ปุ่นเซ็นแล้ว 5,000 ตัน นำเข้ากล้วยอีสาน ได้เม็ดเงินทันที 100 ล้านบาท
โดยปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนทยอยเข้าซื้อหุ้น NVIDIA จนราคาปรับตัวสูงขึ้นมาจากการคาดการณ์ของมอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) บริษัทให้บริการทางการเงินระดับโลก ที่ระบุว่า NVIDIA ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีในการลงทุน ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการลงทุนเพื่อพัฒนาโมเดล AI
นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley กล่าวว่า “NVIDIA ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเรา เพราะการลงทุนในเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มขึ้นจากอดีต และความไม่สมดุลของอุปสงค์กับอุปทานที่ค่อนข้างพิเศษ จะยังอยู่ต่อไปอีกหลายไตรมาส”
ปัจจุบัน NVIDIA มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ 1.15 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แซงหน้าบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ๆ ที่เริ่มฟื้นตัวในปีนี้ หลังจากตลาดซบเซาอย่างหนักในปี 2565 โดยราคาหุ้นของยักษ์ด้านชิปเพิ่มขึ้นเกือบ 200% ในปี 2566
นอกจากนี้ สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานด้วยว่า ในช่วงที่ผ่านมา NVIDIA ยังได้รับคำสั่งซื้อชิปมูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน เช่น Baidu, ByteDance, Tencent และ Alibaba เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ของตนเอง
ซึ่งการที่ NVIDIA ได้รับคำสั่งซื้อมูลค่ามหาศาลจากบริษัทเทคโนโลยีมากมาย สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทการเป็นผู้เล่นรายสำคัญของตลาดชิป AI ที่เป็นขุมพลังสำคัญที่หลายบริษัทต้องการ