สมาคมแท็กซี่ กรีด แอปเรียกรถแข่งขันไม่เป็นธรรม ทำวินสนามบินเองไม่ได้

สมาคมแท็กซี่ ซัด รัฐบาลปล่อยให้แอปเรียกรถต่างชาติเก็บค่า GP สูงทำลายระบบขนส่งไทย ชี้ตั้งวินเองหน้าสนามบินทำไม่ได้ ทั้งเพิ่มลดราคาค่าโดยสารเองตามดีมานด์ซัพพลาย ไม่มีการลงโทษแอปที่ทำผิดกฎ จี้ รัฐบาลรื้อกฎหมายรถรับจ้างอิเล็กทรอนิกส์ – ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยรถรับจ้าง

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า สมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะและแท็กซี่ ร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะ เครือข่าย แท็กซี่ ประเทศไทย ได้ร่อนแถลงการณ์ถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาของผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะและแท็กซี่โดยเร่งด่วน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในอุตสาหกรรมนี้

ข้อเรียกร้องสำคัญ: คือการยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน พ.ศ. 2560 และ ปรับปรุงกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2564 ซึ่งเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุน และส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ขับแท็กซี่และผู้ประกอบการเดิม

โดยในส่วนของการ แก้ไข กฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ แพลตฟอร์มเรียกรถนั้น ทางสมาคมฯ ดังกล่าวได้ตั้งข้อสังเกตและให้มีการแก้ไขหรือยกเลิกหลายส่วน โดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ให้บริการ Application ที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ต่างประเทศหรือไม่ กลุ่มผู้ให้บริการ Application จึงกล้าทําผิดกฎหมาย พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 รายละเอียดดังนี้ 

1.กฏกระทรวงฉบับนี้ไม่มีบทลงโทษ และยังไม่มีกฎหมายออกมาบังคับใช้เพื่อรับรองผู้ให้บริการ Application ในประเทศไทย จึงเป็นเหตุให้กลุ่มผู้ให้บริการ Application เข้ามาทําลายความมันคงระบบโลจิสติกส์ และระบบการขนส่งสาธารณะ ทั้งประเทศไทย ทําผิดกฎหมายพระรารบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 กลุ่มผู้ให้บริการ  Application ยังฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่เคารพกฎหมายในประเทศไทย 

2.การออกกฎกระทรวงฉบับนี้เอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ให้บริการแอปพลิเคชันที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในต่างประเทศ ส่งผลให้เกิดการเอาเปรียบและกดขี่ข่มเหง รวมถึงบังคับให้ผู้ให้บริการรถยนต์รับจ้างผิดกฎหมายผ่านระบบแอปพลิเคชัน ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม GP ซึ่งเป็นการหักส่วนต่างจากรายได้ของพวกเขา นอกจากนี้ยังเกิดความไม่เป็นธรรมต่อกลุ่มผู้ให้บริการรถยนต์รับจ้างที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งให้บริการผ่านแอปพลิเคชันที่มีอยู่ในประเทศไทยในปัจจุบัน

3. การแข่งขันทางธุรกิจที่ไม่เป็นธรรม ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันสร้างความต้องการโดยการลดราคาค่าโดยสาร ส่งผลให้ระบบรถยนต์รับจ้างแบบแท็กซี่มิเตอร์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

ADVERTISMENT

4.การขอให้ยกเลิกจุดจอดของแอปพลิเคชัน Grab ในสนามบินสุวรรณภูมิ การตั้งวินของผู้ให้บริการแอปพลิเคชันขัดต่อกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดสถานที่ตั้งวินและหลักเกณฑ์การออกหนังสือรับรองการเป็นรถยนต์รับจ้าง พ.ศ. 2564 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการรถยนต์รับจ้างมีความเป็นระเบียบและควบคุมการจราจรได้ง่ายขึ้น

การให้บริการผ่านระบบอิเด็กทรอนิกส์ รถยนต์รับจ้างผ่านอิเล็กทรอนิทต์ เช่น Grab Uber, Bolt จะรับงานผ่าน Application โดยไม่จําเป็นต้องมีจุดจอดที่แน่นอนเหมือนวิน แบบดั้งเดิม 

การทําหนดจุดรับส่ง ผู้โดยตารสามารถกําหนดจุดรับส่งเองได้ตามความละดวก และ ต้องการ การควบคุมกาจราจร การไม่มีคุดจอดที่ทําหนดทําให้ลดบัญหาการจราจรติดขัดที่จุด จอดวิน หลักการทั่วไป ในกรณีที่มีข้อสงสัย หรือข้อร้องเรียนเกี่ยวกับรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกล์ตามารถติดต่อกรมการขนส่งทางบก (โทร.1584) 

สรุป รถยนต์รับร้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกต์ไม่สามารถตั้งวินตามแบบดั้งเดิมได้ แต่จะได้ระบบการรับงานผ่าน Application และผู้โดยสารจะสามารถเลือกจุดรับส่งได้เองตามความต้องการ 

5. ผู้ให้บริการ Application ปรับราคาขึ้น เมื่อมีความต้องการใช้รถยนต์รับจ้างบริการผ่าน ระบบผู้ให้บริการ Application เป็นจํานวนมาก หรือในช่วงเวลาที่มีฝนตกหนักนําท่วมใน บางพื่นที่ของกรุงเทพฯและปริมณฑล กลุ่มผู้ให้บริการ Application ยังสามารถปรับราคา ค่าโดยสารได้ตามความต้องการขึ้นลงของผู้เรี่ยกใช้บริการในบางช่วงเวลา และบาง สถานการณ์ี่เกิตขิ้นในกรุงเทพฯ 

พร้อมทั้งระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบกไม่มีการบังคับใช้กฎหมายเอาผิด ผู้ให้บริการ Application เรียกรถที่ทำผิดกฎกมาย เช่น การนํารถยนต์ผิดกฏหมายไม่จดทะเบียนตามที่กฎกระทรวงกําหนด แต่กลุ่มผู้ให้บริการ Application ยังนํามาให้บริการประชาชนอยู่

กรมการขนส่งมีอำนาจบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ให้บริการ Application ในข้อหาใดบ้าง และในมาตราใดบ้างที่จะดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ให้บริการ Application ที่ทำผิดกฎหมายพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522

หากปัจจุบันนี้กรมการขนส่งทางบกยังปล่อยปละละเลย หรือไม่มีกฎหมายบังคับใช้กับกลุ่มผู้ให้บริการ Application ที่มาให้รถยนต์ส่วนบุคคลที่ยังไม่จดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างตามกฎกระทรวงฉบับนี้ประกาศออกมากรมการขนส่งทางบก ต้องมีคำตอบให้กับสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ และกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะแท็กซี่ในทันที

สมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ และผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะแท็กซี่ รวมทั้งผู้ขับขี่รถยนต์รับจ้างสาธารณะแท็กซี่ในประเทศไทย ขอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจดังนี้

1.สร้าง Application ของรัฐบาลเพื่อให้บริการรถยนต์รับจ้างสาธารณะทุกชนิดทุกประเภททั่วประเทศ ใช้ในการให้บริการด้านสาธารณะและด้านอื่น ๆ รวมทั้งการซื้อขายสินค้าต่าง ๆ ไว้อยู่ใน Application เดียวกันเป็นของรัฐบาลดำเนินการทั้งหมด เพื่อนำรายได้เป็นของประเทศไทยโดยเฉพาะการดำเนินการในเรื่องการเก็บ หรือเรียกเก็บการใช้บริการในด้านต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มาใช้บริการ Application ในประเทศไทยและเป็นประโยชน์ผู้ให้บริการในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ที่กระทรวงคมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมร่วมกับสมาคมผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ เพื่อหารือเกี่ยวกับการสร้างความเท่าเทียมระหว่างรถแท็กซี่กับผู้ให้บริการรถยนต์ผ่านระบบแอปพลิเคชัน

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนได้รับข้อร้องเรียนจากนายวรพล แกมขุนทด นายกสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ และทีมงาน เกี่ยวกับรายได้ที่ลดลงของรถแท็กซี่ ที่ให้บริการบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากประชาชนหันไปใช้บริการรถยนต์ผ่านระบบแอปพลิเคชันมากขึ้น

และได้มอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) พิจารณาแนวทางการให้บริการรถสาธารณะ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก พร้อมสั่งการให้กรมการขนส่งทางบกรวบรวมและจัดทำรายงานสรุป เพื่อร่วมหารือกับทีมกฎหมายของสมาคมฯ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ให้มีความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะแท็กซี่ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ลดปัญหาและภาระให้กับผู้ประกอบการอย่างเป็นรูปธรรม โดยยึดประโยชน์สูงสุดของประชาชนผู้ใช้บริการเป็นสำคัญต่อไป

ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่ทางกลุ่มรถแท็กซี่ ตั้งข้อสงสัยว่า ทาง กรมการขนส่งทางบก อนุญาตให้แอปพลิเคชันเข้ามาตั้งจุดให้บริการในสนามบินได้อย่างไรนั้น ตนอยากชี้แจงว่า ตามกฎกระทรวงแล้ว แอปพลิเคชันเป็นการเรียกผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแพลตฟอร์มออนไลน์เท่านั้น และไม่มีการอนุญาตให้ตั้งวินในพื้นที่ถนนสาธารณะ แต่ที่ท่าอากาศยานเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของการท่าฯ ซึ่งมีสิทธิ์ในการบริหารจัดการ อย่างไรก็ตาม หากมีการตั้งวินริมถนนสาธารณะ จะถือว่าผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ นายจิรุตม์ กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก จะนำข้อเสนอแนะต่าง ๆ กลุ่มแท็กซี่เรียกร้องไปพิจารณา โดยจะหารือกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ทอท. และตัวแทนกลุ่มแท็กซี่ที่จะเข้าร่วม เพื่อที่จะหารือกันเกี่ยวกับการจัดระเบียบการให้บริการ เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ให้บริการเดิม และให้ประชาชนมีทางเลือกในการใช้บริการ

โดยจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 28 พ.ค. 2568 ส่วนกรณีที่มีการขู่จากกลุ่มผู้ชุมนุมว่าหากกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานไม่ปฏิบัติตามจะปิดสนามบิน เรียนว่าจะไม่สามารถกระทำได้ ซึ่งหากทำก็คงต้องจัดการดำเนินคดีตามกฏหมาย

นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังมีเรื่องของการปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการขับรถขนรับจ้างสาธารณะแท็กซี่ รายละเอียด ดังนี้