“AIS-โรบินฮู้ด” คิดเร็วทำทันที จุดพลุ ‘ตัวใหญ่ช่วยตัวเล็ก’ ฝ่าโควิด

โรบินฮู้ด

หากพิจารณาจากสถานการณ์รอบด้านไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เมื่อรัฐบาลยกระดับมาตรการคุมเข้มเพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการประกาศให้ 10 จังหวัด (กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี นครปฐม นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา)

พร้อมนำกฎเหล็กต่าง ๆ กลับมาอีกครั้ง ตั้งแต่ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด, ห้ามออกนอกเคหะสถานหลัง 3 ทุ่มถึงตี 4, ร้านสะดวกซื้อ-ตลาดโต้รุ่งปิด 2 ทุ่ม-ตี 4, ห้างเปิดเฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านขายยา,อุปกรณ์สื่อสาร เป็นต้น (14 วัน บางมาตรการเริ่ม 10 ก.ค.)

แน่นอนว่าย่อมสร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะร้านค้ารายย่อย รวมถึงผู้บริโภคจากที่สะบักสะบอมอยู่แล้วจากวิกฤตที่ลากยาวมาปีกว่า แต่ทุกฝ่ายก็พร้อมให้ความร่วมมือ

ด้วยหวังว่าการยอมเจ็บ (อีก) ครั้ง จะทำให้สถานการณ์คลี่คลาย แม้จะรู้ว่าไม่ง่ายนัก

ที่ผ่านมา “เอไอเอส” มีแคมเปญ “SAVE ร้านเล็กที่คุณรัก” ร่วมกับแอปพลิเคชั่นฟู้ดดีลิเวอรี่ “โรบินฮู้ด” ต่อด้วยมาตรการล่าสุด “เอไอเอส พารอด”

ดึงพลังฐานลูกค้าช่วยคู่ค้า

“บุษยา สถิรพิพัฒน์กุล” ผู้บริหารหน่วยงานธุรกิจดูแลลูกค้าและสิทธิประโยชน์ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) อธิบายว่า “มาตรการพารอด” คือ การนำความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลมารวมกับพลังของฐานลูกค้า 42.7 ล้านราย

เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าให้ร้านค้ารายย่อย ผ่านแอปพลิเคชั่น “เอไอเอส พารวย” ใช้เป็นช่องทางรับชำระค่าสินค้าและบริการขณะที่ลูกค้า ใช้ AIS Points เป็นส่วนลดแทนเงินสด เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายได้

“สถานการณ์โควิด-19 ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงโดยเร็ว ทำให้ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวและใช้ทุกสรรพกำลังช่วยกันประคับประคองให้ประเทศไทยเดินต่อได้ เราเองมีนโยบายชัดเจนที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของทุกภาคส่วนคือที่มาของมาตรการพารอดจาก AIS 5G ด้วยแอปพลิเคชั่น “เอไอเอส พารวย” ให้ร้านค้าทดลองใช้ เมื่อต้นเดือน ก.ค.มีร้านค้าเข้าร่วม 1,000 ราย คาดว่าในสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 100,000 ราย”

เป้าหมายของแอปพลิเคชั่น “เอไอเอส พารวย” คือการกระตุ้นฐานลูกค้าเอไอเอส42.7 ล้านคน หันมาจับจ่ายใช้จ่ายกับร้านค้ารายย่อย โดยร้านค้าขายสินค้าและอาหารได้ฟรี

“เรายังโปรโมตร้านค้าผ่านแอปพลิเคชั่น myAIS ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 1 ล้านครั้งต่อวัน ในแอปมีฟังก์ชั่น “สิทธิพิเศษใกล้คุณ” ให้ค้นหาร้านที่อยู่ใกล้ในรัศมี 3 กิโลเมตร เป็นการเพิ่มโอกาสในการขายให้ร้านค้าได้ด้วย”

ก่อนหน้านี้ เอไอเอสเปิดศูนย์การค้าเสมือนจริง “V-Avenue.Co” จับมือกับดิ เอ็มโพเรียม-เดอะมอลล์-ทีวี ไดเร็ค” และ SMEs กว่า 200 แบรนด์ นำศักยภาพของเทคโนโลยี virtual reality (VR) มาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยให้ลูกค้าเลือกซื้อและรับชมสินค้าแบบ 360 องศาผ่านเว็บไซต์ V-Avenue.Co

ร่วมด้วยช่วยกัน “คิดเร็วทำทันที”

“บุษยา” กล่าวต่อว่า มาตรการ “พารอด” เป็นส่วนหนึ่งของการ “คิดเร็ว ทำเร็ว” เพราะต้องการเร่งเชื่อมต่อช่วยเหลือร้านค้าให้อยู่รอดได้ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบาก และคาดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งมีแคมเปญ “ร้านเล็กที่คุณรัก” ให้ส่วนลดพิเศษเมื่อสั่งอาหารจากร้านอร่อยผ่านแอปโรบินฮู้ด เพื่อส่งกำลังใจช่วยผู้ประกอบการร้านอาหารต่อเนื่อง

หลังจากเคยร่วมกับ Food Delivery 5 ราย จัดแคมเปญ “ผนึกกำลังกิน ฟิน อยู่บ้านกับเอไอเอส พอยท์” ให้นำ AIS Point มาแลกส่วนลดสูงสุด 60 บาทเมื่อสั่งอาหาร เครื่องดื่ม ขั้นต่ำ 150 บาท ส่งผลให้ยอดการใช้งานเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้นกว่า 3.2 เท่าจากเดือน เม.ย.

“แคมเปญร้านเล็กที่คุณรัก เป็นการต่อยอดจากแคมเปญเดิม ทำขึ้นก็เพื่อช่วยร้านเล็ก ๆ ให้มีรายได้จากการขายผ่านช่องทางใหม่ ๆ โดยเรามอบส่วนลดค่าอาหาร 50 บาท สำหรับทุกออร์เดอร์ที่มียอดสั่งอาหาร 100 บาทขึ้นไป เมื่อกดเพิ่มโค้ดส่วนลด LOVEAIS”

ไม่ใช่แค่เอไอเอสที่คิดเร็วทำเร็ว พันธมิตรที่ร่วมกันในแคมเปญฟู้ดดีลิเวอรี่มาหลายรอบอย่าง “โรบินฮู้ด”ก็ไม่น้อยหน้า

“SCB” จุดพลุตัวใหญ่ช่วยตัวเล็ก

ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่คิดเร็ว ทำเร็ว ด้วยการใช้พื้นฐานที่มี โดยใช้แพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่ “โรบินฮู้ด” มาสร้างมาตรการลดภาระให้ผู้บริโภคและช่วยร้านค้าในช่วงล็อกดาวน์รอบล่าสุด ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นไอเดียจนทำให้เกิดขึ้นจริงใช้เวลาเพียงข้ามคืน

“อาทิตย์ นันทวิทยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ “ตระหนักถึงความกังวลและความเดือดร้อนของสังคมไทยที่มีต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กำลังทวีความเข้มข้น

จึงร่วมกับ “โรบินฮู้ด” ออกมาตรการพิเศษ “ส่งฟรีทุกออร์เดอร์ช่วงล็อกดาวน์” ตั้งแต่ 11-25 ก.ค. รวม 15 วัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้คนในสังคม ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าด้วยการออกค่าส่งอาหารให้ฟรีทุกออร์เดอร์

“เรามุ่งหวังช่วยร้านอาหารโดยเฉพาะร้านเล็ก ๆ ให้มีออร์เดอร์ มีรายได้ในการพยุงธุรกิจ รวมถึงเพิ่มโอกาสในการสร้างงานที่เพิ่มขึ้นให้ไรเดอร์ และหวังให้มาตรการพิเศษในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของโมเดลที่คนตัวใหญ่จะมีส่วนช่วยเหลือสังคม และต่อลมหายใจให้คนตัวเล็ก”

ปรากฏการณ์ “ล้มลุกเรียนรู้”

มาตรการ “ส่งฟรีทุกออร์เดอร์” ในช่วงล็อกดาวน์ ถือเป็นมาตรการเพิ่มเติมจากนโยบายหลักที่ไม่เก็บ GP ร้านค้า และช่วยเรื่องการจ้างงานของ “ไรเดอร์” โดย “ไรเดอร์” ที่รับงานส่งอาหารช่วงนี้จะได้ค่ารอบเต็มจำนวนปกติ โดยธนาคารไทยพาณิชย์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปกติ “โรบินฮู้ด” มียอดออร์เดอร์ต่อวันอยู่ที่ 20,000 ออร์เดอร์ แต่จากมาตรการ “เราช่วยคุณ คุณช่วยร้าน” ทำให้มีลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการล้นหลามทำให้ปริมาณไรเดอร์มีไม่เพียงพอ

ปัจจุบันยอดออร์เดอร์ที่สั่งซื้อสำเร็จใกล้เคียง 40,000 ออร์เดอร์/วัน และอยู่ระหว่างเพิ่มจำนวนไรเดอร์ต่อเนื่อง โดยเร่งอบรมผ่านระบบออนไลน์ ตั้งเป้าว่าภายใน 3 วันจะเพิ่มอีก 4,500 คน (ยอดแอ็กทีฟปัจจุบันอยูที่ 4,000 คน)เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และทำให้ช่วยร้านเล็กผ่านการสั่งอาหารได้มากขึ้นด้วย

“ธนา เธียรอัจฉริยะ” ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่ “โรบินฮู้ด” โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า ทีมโรบินฮู้ดทราบถึงระดับความสนใจของมาตรการ

“เราช่วยคุณ คุณช่วยร้าน” ทำให้ระบบมีปัญหาบางช่วง และไรเดอร์ไม่พอ อาจทำให้หลายท่านหงุดหงิด ไม่พอใจ และขอให้เราหยุดแคมเปญนี้ไปก่อนถ้าหาไรเดอร์ได้ไม่เพียงพอ

“ผมใคร่ขอเรียนชี้แจงว่า กระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่เจ็บปวด และเราทราบดีว่าจะต้องถูกตำหนิในวงกว้างที่ตัดสินใจทำโดยไม่เตรียมตัวให้พร้อม แต่อย่างที่ชี้แจงไปก่อนหน้าว่า

เรามีเวลาน้อยมาก และอยากให้มีผลทันทีในช่วงล็อกดาวน์ ถ้าเตรียมให้พร้อมจะใช้เวลาอีกเป็นอาทิตย์ วิธีเดียวที่จะทำได้และมีผลทันที คือ ลองทำแล้วแก้ไขปรับปรุงโดยด่วน อาจไม่ถูกใจใครหลายคน แต่เป็นวิธีที่เราได้เลือกแล้ว

และไม่มีอะไรที่จะแก้ตัวนอกจากแสดงความพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาให้ลุล่วง และให้คุณได้ช่วยร้านเล็กให้มากที่สุด ขอให้อดทนกับเราและขอเวลาอีก 2-3 วันนะครับ”