กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดสถิติปี 2564 ฝนตกน้อยกว่าปี 2554 และเจอพายุดีเปรสชั่น เตี้ยนหมู่ ปลายฤดูฝนเพียง 1 ลูก ขณะที่ปี 2554 ฝนตกตั้งแต่ต้นฤดู มีพายุเข้าไทยถึง 5 ลูก คาดบริหารจัดการระบายน้ำดี กรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียงจะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ซ้ำรอยปี 2554
วันที่ 30 กันยายน 2564 ดร.ณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยรุนแรงที่หลายจังหวัดกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง นั้น หลายคนมีความกังวลว่าจะมีน้ำท่วมหนักเหมือนปี 2554 หรือไม่
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ทั้งนี้ทางกรมอุตุนิยมวิทยาขอยืนยันว่า สถานการณ์อุทกภัยดังกล่าวมีความแตกต่างจากปี 2554 ซึ่งหากวิเคราะห์จากสถิติข้อมูลอุตุนิยมวิทยา พบว่าภาพรวมของการเกิดน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 กับปี 2564 จะมีความแตกต่างกัน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบปริมาณฝนที่ตกระหว่างเดือน มกราคม ถึงกันยายน พบว่าในปี 2554 ปริมาณฝนเกือบทุกภาคสูงกว่าปี 2564 ยกเว้นภาคตะวันออกที่ปี 2564 สูงกว่า ปี 2554 เล็กน้อย และในภาพรวมทั้งประเทศพบว่า ปี 2554 มีฝนมากกว่า ปี 2564 ถึง 20%
2. เปรียบเทียบพื้นที่และการกระจายของฝน ตั้งแต่ช่วงก่อนและเข้าสู่ฤดูฝน พบว่า ในปี 2554 พื้นที่ที่มีฝนตกและตกต่อเนื่องได้แก่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ทำให้มีปริมาณน้ำสะสมเป็นจำนวนมากในลุ่มน้ำสายหลัก รวมทั้งเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ เต็มความจุตั้งแต่ต้นปี
และในช่วงกลางฤดูฝนถึงปลายฤดูฝน การระบายน้ำสามารถทำได้น้อยเนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่อง ทั้งเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน ขณะที่ในปี 2564 ช่วงก่อนเข้าสู่ฤดูฝน (เม.ย.- ต้น พ.ค.) การกระจายฝนดี แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนพบว่า ปริมาณฝนที่ตกน้อยลง โดยเฉพาะช่วงปลายเดือน พ.ค. ถึง มิ.ย.มีปริมาณฝนน้อยและบางพื้นที่มีฝนทิ้งช่วงหลายสัปดาห์
3. เปรียบเทียบอิทธิพลจากพายุหมุนเขตร้อนพบว่า ในปี 2554 เดือนมิถุนายน ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทยตอนบนและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย และในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2554 ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “ไหหม่า” ในประเทศลาว ทำให้มีฝนตกหนัก หลายพื้นที่
ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2554 ฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน “นกเตน” ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดน่าน นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้รับอิทธิพลทางอ้อมจากพายุอีก 3 ลูก ได้แก่ พายุ ไห่ถาง เนสาด และนัลแก ขณะที่ในปี 2564 ช่วงปลายฤดูฝน เดือน กันยายน มีพายุที่เข้าสู่ประเทศไทยเพียงลูกเดียวคือ พายุดีเปรสชั่น “เตี้ยนหมู่”
ดังนั้น จึงมีโอกาสน้อยมากที่กรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียงจะเกิดน้ำท่วมแบบปี 2554 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการและการระบายน้ำเป็นสำคัญ
จึงขอให้ประชาชนอย่าได้ตระหนกและขอให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและประกาศแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา หน่วยงานของทางราชการ เป็นระยะๆ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพื่อเติม สามารถสอบถามได้ที่ เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th