Alphabet บิ๊กเทคขวัญใจนักลงทุน

ภาพประกอบข่าวการลงทุน-กราฟ-หุ้น-ดัชนี-ตลาดหุ้น-ลงทุน 2
Photo by Mark Finn on Unsplash
Tech Times
มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ

Alphabet อาจดูไม่หวือหวาเร้าใจเมื่อเทียบกับบิ๊กเทครายอื่น แต่เจ้าของเสิร์ชเอ็นจิ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Google รายนี้กลับคว้าตำแหน่งแชมป์หุ้นบิ๊กเทคขวัญใจนักลงทุนประจำปี 2021 ไปครองแบบทิ้งคู่แข่งไปหลายช่วงตัว

สัปดาห์ก่อนจะสิ้นปี 2021 ราคาหุ้นของ Alphabet ปิดที่ 2,938 เหรียญ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 68% จัดเป็น top big tech stock ประจำปีอย่างเต็มภาคภูมิ ตามมาด้วย Microsoft ที่มีมูลค่าหุ้นสูงขึ้น 51% Apple

เพิ่มขึ้น 33% Facebook 23% และ Amazon 5% หรือแม้กระทั่ง Tesla ที่หลายคนคิดว่าน่าจะเป็นหุ้นที่ร้อนแรงสุดแห่งปี 2021 ก็ยังแพ้ Alphabet อยู่ดี โดยมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 51%

หากเทียบกับเมื่อ 17 ปีก่อน ตอนทำ IPO ต้องถือว่าหุ้น Google (หรือ Alphabet) มาไกลมาก เพราะมีราคาเพิ่มขึ้นจากปี 2004 ถึง 5,000%

รายได้หลักของ Alphabet แบ่งออกเป็น 2 ก้อนหลัก คือ รายได้จากบริการ Google และบริการ non Google หรือที่รู้จักกันในนาม “Other Bets”

Advertisment

ภายใต้ร่ม Google ประกอบด้วย “Google services” (ได้แก่ Android, Chrome, Gmail, Google Drive, Google Maps, Google Photos, Google Play, Search และ YouTube) และ “Google Cloud”

โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากเงินค่าโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 3/2021 บริษัทมีรายจ่ายการโฆษณาเพิ่มขึ้น 43% อยู่ที่ 53.1 พันล้านเหรียญ

การที่เป็นเจ้าของ Android ทำให้ Google ไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนนโยบายการเปิดเผยข้อมูลของ Apple เหมือนโซเชียลมีเดียรายอื่นที่ต้องง้อ iOS อย่าง Facebook หรือ Snap

ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะมีรายได้ทั้งปี 2021 อยู่ที่ 254 พันล้านเหรียญ หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 39% เพราะรายได้จากการโฆษณาเริ่มคึกคักหลังจากมีการคลายล็อกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และผู้บริโภคเริ่มค้นหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวมากขึ้น ในขณะที่ YouTube ยังคงเป็นแหล่งความบันเทิงสำหรับคนที่ยังกักตัวอยู่บ้านอย่างต่อเนื่อง

Advertisment

แม้กระทั่งท่ามกลางมรสุมโควิด หุ้นของบริษัทก็ยังเติบโตจนมี market cap ทะลุ 1 ล้านล้านเหรียญในปี 2020 และทะยานขึ้นเป็น 2 ล้านล้านเหรียญเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา

นอกจากรายได้จากโฆษณาแล้ว บริการ Google Cloud ก็โตขึ้นถึง 45% โดยมีรายได้ ณ สิ้นไตรมาส 3/2021 อยู่ที่ 4.99 พันล้านเหรียญ ถึงจะยังตามหลัง Amazon Web Services และ Microsoft Azure แต่ได้รับอานิสงส์จากการที่ลูกค้าองค์กรเริ่มกระจายความเสี่ยงด้วยการใช้บริการจากผู้ให้บริการหลายเจ้าในเวลาเดียวกัน (multicloud trend)

นอกจากนี้ GV (หรือ Google Venture) และ Capital G ยังมีผลประกอบการที่ดีจากการลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัพหลายแห่งที่ทยอยเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นในรอบปีที่ผ่านมา ทั้ง UiPath, Duolingo Freshworks และ Toast ทำให้มีรายได้กว่า 188 ล้านเหรียญในไตรมาส 3/2021 เพิ่มขึ้นจาก 26 ล้านเหรียญในปีก่อน

Wallet Investor ที่ใช้อัลกอริทึมวิเคราะห์ราคาหุ้นของบริษัทในอีก 5 ปีข้างหน้า คาดว่าราคาหุ้นของ Alphabet จะพุ่งไปถึง 5,798.89 เหรียญต่อหุ้นในปี 2025 หรือเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันถึงสองเท่า โดยคาดว่าราคาจะขึ้นไปอยู่ที่ 3,485.25 ณ สิ้นปี 2022

แต่จากการรวบรวมความเห็นของนักวิเคราะห์ 31 รายใน Wall Street ของ Market Beat คาดว่า ราคาหุ้นของ Alphabet ในอีก 12 เดือนข้างหน้าน่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 3,181.39 เหรียญ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าหากอยากรักษาอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด บริษัทต้องผลักดันให้เกิดบริการที่สร้างรายได้ใหม่ ๆ เพิ่มเติม มิฉะนั้น คาดกันว่าการเติบโตอาจลดลงมาอยู่ที่ 17% หรือระดับเดียวกับในปี 2019 ก่อนที่จะมีโควิด

นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับกฎระเบียบต่าง ๆ ที่ทยอยออกมากดดันบิ๊กเทคทั้งหลาย โดยเฉพาะกฎหมายว่าด้วยการแข่งขันที่เป็นธรรม อีกทั้งยังต้องลุ้นกับโครงการ “Other Bets” ว่าจะออกหัวออกก้อย

เพราะเท่าที่ผ่านมา 6 ปีก็ยังไม่เห็นมี “นวัตกรรม” ใด ๆ ที่พอจะทำให้ชื่นใจได้ แม้จะผลาญงบฯไปแล้วถึง 1.29 พันล้านเหรียญก็ตาม ในขณะที่ Waymo โครงการผลิตรถยนต์ไร้คนขับที่เคยสร้างความฮือฮาในระยะแรก ก็เริ่มแผ่ว ๆ ไปเช่นกัน

แต่ด้วยพื้นฐานที่แน่นปึ้กตามประสามวยหมัดหนักไม่เน้นลีลา ทำให้ Alphabet ยังเป็นบิ๊กเทคที่เชื่อถือได้ในสายตาของนักลงทุนระยะยาวอยู่ดี