สนามบินเชียงใหม่คิกออฟเปิด 24 ชั่วโมง ประเดิมไฟลต์แรกไปโอซากา

สนามบินเชียงใหม่ Kick off 24 ชั่วโมง คึกคักรับไฮซีซั่น ประเดิมไฟลต์แรก “เชียงใหม่-โอซากา” รองรับนักท่องเที่ยวตามนโยบาย Quick-Win กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดบริการ 24 ชั่วโมง เป็นวันแรก โดยเที่ยวบินแรกที่ทำการบินหลังเวลาเที่ยงคืน คือ สายการบินไทยเวียตเจ็ท เที่ยวบินที่ VZ 822 เส้นทาง เชียงใหม่-โอซากา ออกเดินทาง เวลา 00.30 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 (คืนวันที่ 31 ตุลาคม 2566) ถึงท่าอากาศยานคันไซ (โอซากา) เวลา 07.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และคณะผู้บริหารของ ทอท.ได้ร่วมกันแจกของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสารที่เดินทางไปกับเที่ยวบินดังกล่าว

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า การขยายเวลาการเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลตามกฎระเบียบของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2548 ซึ่งมีการประเมินผลกระทบครอบคลุมเวลา 24 ชั่วโมง การขยายเวลาให้บริการจึงไม่จัดเป็นโครงการของรัฐที่เกิดขึ้นใหม่ และไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตาม จะมีการดำเนินการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ฉบับใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 และในระหว่างนี้จะพิจารณาจัดตารางการบินให้เกิดผลกระทบกับชุมชนและประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแนวขึ้นลงของอากาศยานและบริเวณโดยรอบสนามบินให้น้อยที่สุด

นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า การให้บริการ 24 ชั่วโมงของท่าอากาศยานเชียงใหม่ จะช่วยเพิ่มบรรยากาศการท่องเที่ยวให้มีความคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะขณะนี้ได้เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และสามารถรองรับสายการบินต่างประเทศได้มากขึ้นในอนาคต

ปัจจุบันมีจำนวนเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศรวม 150 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 21,537 คนต่อวัน มีเส้นทางระหว่างประเทศ 18 เส้นทาง เส้นทางภายในประเทศ 12 เส้นทาง โดยมีเส้นทางบินตรงระหว่างประเทศ ได้แก่ ไทเป, อินชอน, คุนหมิง, ปักกิ่ง, ฮ่องกง คาดว่าในเดือนเมษายน จะเพิ่มเส้นทางบินตรง ได้แก่ มุมไบและเดลี มีจำนวนสินค้ารวม 4,328 ตันต่อวัน

หลุมจอดอากาศยานพร้อมให้บริการ 16 หลุมจอด ลานจอดรถกลางแจ้งรองรับได้ 700 คัน อาคารจอดรถ 10 ชั้น รองรับได้ 1,000 คัน มีขีดความสามารถในการรองรับปริมาณผู้โดยสาร 8 ล้านคนต่อปี และอยู่ขั้นตอนการศึกษาและออกแบบโครงการพัฒนา ทชม. ระยะที่ 1 เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 16.5 ล้านคนต่อปี เพื่อรองรับภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่ถือเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ และประเทศชาติต่อไป

ทางด้านนายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ยอดจองห้องพักในช่วงนี้อาจไม่หวือหวา ด้วยปัจจัยของฤดูกาลที่มีฝนตกและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ แต่ข่าวดี คือ ไตรมาสที่ 4 กำลังมาแรง เพราะสายการบินเกาหลีสามารถบินตรงเข้าเชียงใหม่เพิ่ม

ทั้ง Jin Air, Korea Air, Asiana, Jeju Air โดยเฉพาะ Jin air ที่สามารถได้เวลา Slot ลงเชียงใหม่ในช่วง 20.30 น. ซึ่งการเพิ่มเที่ยวบินครั้งนี้จะสร้างโอกาสและสร้างรายได้ให้เมืองเชียงใหม่ได้มากจาก 148 เที่ยวบิน เกือบ 27,800 ที่นั่ง คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าเมืองเชียงใหม่ถึง 592 ล้านบาทจากช่วงนี้ช่วงเดียว