“เมียนมา”งดรับแรงงานค้างด่านชายแดนแม่สายกลับ เหตุเกินขีดจำกัดคัดกรองโควิด

วันนี้ (1 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แจ้งว่าที่หน้าด่านพรมแดนตรงจุดผ่านแดนถาวรแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ยังคงมีชาวเมียนมาที่ตกค้างอยู่ในประเทศไทยเดินทางไปขอรอข้ามฝั่งกลับประเมียนมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีเดินวนอยู่บริเวณหน้าด่านในช่วงเช้าประมาณ 10 กว่าคนก่อนจะทะยอยเดินทางด้วยรถสองแถวจากสถานีขนส่งผู้โดยาสาร อ.แม่สาย ไปลงที่หน้าด่านทีละน้อยๆ จนช่วงสายมีกว่า 30 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำว่าปัจจุบันทาง อ.แม่สาย จัดสถานที่เพื่อให้พักพิงชั่วคราวภายในศาลาวัดพระธาตุดอยเวาใกล้กับด่านพรมแดนและในปัจจุบันมีแรงานชาวเมียนมาไปพักพิงอยู่แล้วจำนวน 58 คน

ที่ผ่านมาทางการไทยจะประสานไปยังทางการ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เพื่อให้รับตัวแรงงานตกค้างเหล่านี้กลับประเทศเป็นครั้งๆ ไป เนื่องจากในปัจจุบันทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีการปิดพรมแดนทุกจุดเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยฝ่ายไทยประกาศปิดพรมแดนไปตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมาแล้วยกเว้นตรงสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ห่างออกไปประมาณ 3.5 กิโลเมตร เพื่อขนส่งสินค้าระหว่างกันเท่านั้น ขณะที่แรงงานชาวเมียนมาที่ตกค้างส่วนใหญ่ให้เหตุผลที่เดินทางกลับช้าว่าเพราะต้องรอรับเงินเดือนในวันสิ้นเดือน มี.ค.และคาดว่าจะมีเพื่อนแรงงานที่ประสบปัญหาเดียวกันทะยอยเดินทางไปสมทบที่ชายแดนตลอดทั้งวันด้วย

ขณะเดียวกันพบว่าบริเวณริมฝั่งลำน้ำสายที่เป็นเส้นเขตแดนทางทหารกองกำลังผาเมือง ได้นำลวดหนามไปขึงเป็นรั้วเอาไว้หลายจุดเนื่องจากปัจจุบันลำน้ำสายแห้งและคับแคบจึงสมารถเดินเท้าฝ่ามาได้ด้วยระยะทางประมาณ 10-15 เมตรเท่านั้น วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามฝั่งโดยเฉพาะเพื่อมาซื้อสินค้าที่จำเป็นโดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่ตลาดและร้านค้าสะดวกในฝั่งไทย

ล่าสุดมีรายงานข่าวจากฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ว่าทางรัฐบาลกลางเมียนมาได้มีหนังสือด่วนถึงรัฐบาลท้องถิ่นรัฐฉานที่มีเมืองเอกอยู่ที่เมืองตองจี และเจ้าหน้าที่ จ.ท่าขี้เหล็ก งดรับแรงงานตกค้างจากประเทศเพื่อนบ้านกลับประเทศจนกว่าจะถึงวันที่ 15 เม.ย.นี้ โดยให้เหตุผลว่าได้มีแรงงานทะลักกลับประเทศจำนวนมากจนเกินขีดความสามารถในการคัดกรอง โดยกรณี จ.ท่าขี้เหล็ก มีการใช้วัด 1 แห่งห่างจากพรมแดนประมาณ 2 กิโลเมตร รองรับผู้เดินทางกลับแล้วถูกกักดูอาการจำนวน 82 คน ส่วนที่โรงพยาบาลท่าขี้เหล็กต้องดูแลแรงงานที่เดินทางกลับประเทศไทยแล้วมีไข้สูงและต้องเฝ้าระวังจำนวน 11 คน ขณะที่มีผลยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในท่าขี้เหล็กแล้ว 2 ราย โดยเป็นชายชาวจีนเชื้อสายมาเลเซียอายุ 26 จำนวน 1 คน และผู้หญิงชาวเมียนมา 1 คน ทำให้ทางการเมียนมากำลังสร้างศูนย์บำบัดเพิ่มจำนวน 6 แห่ง เพื่อรองรับคนให้ได้ประมาณ 500 คนก่อน อย่างไรก็ตามตลอดทั้งวันนี้ทางการไทยพยายามหารือกับท้องถิ่นเมียนมาเพื่อหาทางออกต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณชาแดยต่างแสดงความวิตกกังวล เพราะพบว่ายังคงมีแรงงานชาวเมียนมาตกค้างเดินทางไปสมทบกับกลุ่มเดิมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวตั้งอยู่ในเขตชุมชนกลางตลาดพอดีจึงอยากให้ทาง อ.แม่สาย ได้ย้ายไปอยู่ในที่ห่างไกลเพื่อให้สะดวกในการดูแลและความปลอดภัยของพื้นที่ด้วย

ด้านศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขหรืออีโอซีของสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย แจ้งว่าที่ผ่านมามีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 129 ราย ตรวจไม่พบเชื้อจำนวน 120 รายและพบติดเชื้อจำนวน 9 รายดังกล่าว โดยผู้ป่วยอยู่ในพื้นที่ อ.เทิง จำนวน 2 ราย อ.แม่จัน จำนวน 3 ราย อ.เทิง อ.แม่สาย จำนวน 3 ราย และ อ.เมืองเชียงราย จำนวน 1 ราย ซึ่งจากประวัติพบว่าทั้งหมดติดเชื้อมาจากนอกพื้นที่โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และ จ.เชียงใหม่ ขณะที่มีผู้ที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากถึง 4,057 คน และกลับจากต่างประเทศที่ต้องเฝ้าระวังจำนวน 802 คน