VPG เพิ่ม 10 ศูนย์ฆ่าเชื้อ ASF หลังยอดขายผลิตภัณฑ์ปี’63 โต 200%

เครือเวทโปรดักส์รุกเปิดบริการศูนย์ล้างอัดฉีดรถฆ่าเชื้อ ASF Survive Car Center เพิ่มอีก 10 แห่ง กระจายใน 4 ภาค “ชลบุรี-ราชบุรี-นครราชสีมา-แพร่-ลำปาง-เชียงใหม่-ฉะเชิงเทรา” ภายในไตรมาส 2 หลังพบโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรระบาดหนักในประเทศเพื่อนบ้าน เผยรถ-คนถือเป็นจุดเสี่ยงหลัก 80% แพร่กระจายเชื้อ

นางสาวอรวรรณ อำนรรฆสรเดช ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเวทโปรดักส์ รีเซิร์ช แอนด์ อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ VRI ในเครือเวทโปรดักส์ (VPG) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมาโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร (ASF) ได้แพร่ระบาดรอบประเทศเพื่อนบ้านของไทย

ทั้งจีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ เมียนมา กัมพูชา สปป.ลาว ซึ่งบริษัทได้ดำเนินธุรกิจในประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้ทราบว่าตัวพาหะสำคัญในการแพร่กระจายเชื้อ ASF อย่างรวดเร็วในประเทศเพื่อนบ้านเหล่านั้น 80% ติดเชื้อมาจากรถและคน

ศูนย์วิจัย VRI ซึ่งทำงานด้านวิจัยและพัฒนาได้ร่วมกับทีมวิชาการ iTAC : The International Technical and Academic Center เครือเวทโปรดักส์ ได้ทำงานวิจัยร่วมกันแล้วพบว่า หากมีกระบวนการล้างรถและทำความสะอาดคนขับรถ เพื่อฆ่าเชื้อ ASF อย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถลดการปนเปื้อนของเชื้อออกสู่สิ่งแวดล้อมอย่างได้ผล

จากผลงานวิจัยดังกล่าว นายสัตวแพทย์ธานินทร์ ชีวะผลาบูรณ์ กรรมการผู้จัดการเครือเวทโปรดักส์ จึงมีนโยบายเปิดบริการ “ASF SurviveCar Center” ศูนย์ล้างอัดฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อให้รถและคนขึ้นแห่งแรกที่สถานีบริการน้ำมัน PT หนองเสม็ด จ.ชลบุรี

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ให้เกษตรกรหรือเจ้าของฟาร์มสุกรได้เห็นระบบขั้นตอนกระบวนการต่าง ๆ ที่จะลดจุดเสี่ยงการแพร่เชื้อ และกำลังมีแผนขยายเพิ่มไปยังภาคต่าง ๆ อีก 10 แห่ง

“เวทโปรดักส์ กรุ๊ป เป็นองค์กรชั้นนำด้านสุขภาพสัตว์ที่มีนวัตกรรมในภูมิภาคเอเชีย มีทีมงานสัตวแพทย์ และสัตวบาลเป็นจำนวนมาก เราดำเนินธุรกิจผลิต นำเข้า ส่งออก และจำหน่ายสินค้าเวชภัณฑ์ อาหารเสริม

และอุปกรณ์ด้านการควบคุมป้องกัน วินิจฉัยโรค จึงอยากรณรงค์ให้ผู้เลี้ยงได้ตระหนักเห็นความสำคัญของการฆ่าเชื้อ ทำอย่างไรจะลดจุดเสี่ยงการแพร่เชื้อได้ และเห็นขั้นตอนการทำงานที่ถูกต้อง

การทำ ASF Survive Car Center เพื่อเป็นศูนย์ต้นแบบให้ผู้เลี้ยงเห็นและนำไปปรับใช้ในฟาร์มของตนเองด้วยระบบที่เราการันตีว่า สามารถฆ่าเชื้อ ASF ได้ 100% โดยเรายืนยันกระบวนการด้วยเครื่อง PCR เป็นเครื่องตรวจเชื้อ ASF

หลังจากผ่านกระบวนการว่าการปนเปื้อนเป็น 0% จริง จึงอยากเชิญชวนฟาร์มต่าง ๆ จัดตั้งศูนย์ของตนเองเพื่อเป็นการป้องกันเชื้อในฟาร์ม”

ปัจจุบันเครือเวทโปรดักส์ดำเนินธุรกิจมา 26 ปี มียอดขายรวมกว่า 5,000 ล้านบาท/ปี มีอัตราการเจริญเติบโต 15-20 % ทุกปี ในส่วนของยาฆ่าเชื้อปี 2563 มีอัตราการเติบโตสูงมากกว่า 200 % และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

นางสาวอรวรรณกล่าวต่อไปว่า หัวใจสำคัญของ ASF Survive Car Center คือขั้นตอนวิธีการล้างรถและฆ่าเชื้อที่มีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ทางวิทยาศาสตร์ ต่างกับการล้างรถทั่วไป เริ่มตั้งแต่ผู้เข้ารับบริการต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นของ VPG

เพื่อทำประวัติ เมื่อรถวิ่งเข้ามาที่ศูนย์จะเป็นระบบวันเวย์เข้า-ออกคนละทาง ก่อนล้างจะมีการสุ่มตรวจเก็บเชื้อ (swab) ด้วยวิธี PCR ที่รถทั้งภายนอกภายในห้องโดยสาร ล้อรถ และคนขับรถ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการล้างจากข้างในออกข้างนอก ฉีดจากบนลงล่าง

เมื่อล้างรถเสร็จจะพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทิ้งไว้ 10 นาที และพ่นหมอกฆ่าเชื้อในห้องผู้โดยสาร ส่วนคนขับรถและผู้ติดตามให้เข้าตู้อบฆ่าเชื้อ หลังจากนั้น จะตรวจ swab ที่รถและคนอีกครั้ง

ก่อนเก็บตัวอย่างทั้งก่อนและหลังล้างรถ 4 ตัวอย่างไปที่ห้องปฏิบัติการจะทราบผลภายใน 3 ชั่วโมง ทั้งนี้ ทางศูนย์มีคูปองให้คนขับยืนยันว่า รถคันนี้ได้ผ่านการล้างของ ASF Survive Car Center แล้ว โดยค่าบริการรวมค่าตรวจเชื้อถูกมาก รถเล็ก 400 บาท/คัน และรถขนส่งขนาดใหญ่ 800 บาท/คัน

“สำหรับชุดอุปกรณ์อัดฉีดฆ่าเชื้อทั้งภายนอกภายใน และเครื่องมือในการตรวจ PCR เพื่อหาเชื้อ รวมทั้งน้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ทั้งระบบ 1 ชุดเครือเวทโปรดักส์ขายราคาขั้นต่ำไม่เกิน 2แสนบาท

สำหรับฟาร์มที่มีสุกรครบวงจร ขนาดแม่พันธุ์ 500 แม่ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าหากเทียบกับความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นหากมีเชื้อโรคเข้าไปในฟาร์ม โอกาสที่อัตราการตายจะเร็วมาก ฉะนั้น การลงทุนทำระบบเหล่านี้กับเงินเพียง 2 แสนบาทถือว่าคุ้มค่า”

นางสาวอรวรรณกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบัน ASF Survive Car Center เปิดบริการ 2 แห่ง ได้แก่ ปั๊มน้ำมัน PT หนองเสม็ด จ.ชลบุรี ซึ่งทางบริษัทลงทุน 100% เปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 และสาขาโพธาราม จ.ราชบุรี

ซึ่งตั้งขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างบริษัทกับสหกรณ์การเกษตรปศุสัตว์ราชบุรี ร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดราชบุรี โดยบริษัทส่งพนักงานไปจัดวางระบบและสอนงานให้ กำลังมีแผนขยายไปในภาคต่าง ๆ อีกรวม 10 แห่ง ภายในไตรมาส 2 ของปี 2564

ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ในแต่ละภาค จะเน้นจังหวัดที่มีการเลี้ยงสุกรจำนวนมาก และถนนเส้นที่รถขนส่งสุกรวิ่งผ่านเป็นหลัก ไม่ได้เน้นการจับมือกับปั๊มน้ำมันยี่ห้อใด ตามแผนจะตั้งที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 แห่ง

เช่น จ.นครราชสีมา, ภาคเหนือตั้งเป้าเลือกทำเลที่ดักรถจากภาคเหนือวิ่งลงมาทางภาคกลาง 3 แห่ง ได้แก่ จ.แพร่ จ.ลำปาง และ จ.เชียงใหม่, ภาคตะวันออกจะขยายเพิ่มที่ชลบุรีอีก 2 แห่ง และ จ.ฉะเชิงเทราอีก 1 แห่ง, ภาคตะวันตก จะเพิ่มใน จ.ราชบุรีอีก 2 แห่ง

“สาขาหนองเสม็ด จ.ชลบุรี เปิดบริการมาแล้วเกือบ 4 เดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563-27 กุมภาพันธ์ 2564 มีรถเล็กและรถใหญ่มาใช้บริการรวม 1,080 คัน มีจำนวนตัวอย่างสะสมที่เก็บตรวจ 4,324 ตัวอย่าง

หลังเข้าสู่กระบวนการล้างอัดฉีดฆ่าเชื้อยังไม่พบการปนเปื้อนของเชื้อ ASF ส่วนโพธารามเพิ่งเปิดตัวจะทราบตัวเลขผู้มาใช้บริการสิ้นเดือนมีนาคม 2564”