นนทบุรี แจงสถานการณ์โควิด 80 ราย อาการหนัก ชี้ทุกคนเสี่ยงหมด

นนทบุรีแจงสถานการณ์โควิด

จังหวัดนนทบุรี แจงสถานการณ์โควิด-19 ละเอียดยิบ ชี้ มี 80 ราย อาการรุนแรง การระบาดมีการถ่ายทอดเป็นรุ่นที่ 3 – 4 แล้ว ตอนนี้ทุกคนมีความเสี่ยงติดเชื้อไม่แตกต่างกัน คาด หากปฏิบัติตามมาตรการเคร่งครัด ภายใน 1 – 2 สัปดาห์ สถานการณ์จะดีขึ้น

วันที่ 27 เมษายน 2564 ศูนย์ข้อมูล COVID-19 นนทบุรี โพสต์เฟซบุ๊กอธิบายสถานการณ์ โควิด-19 ในจังหวัด ระบุว่า ผ่านมาเกือบ 1 เดือนแล้ว ที่นนทบุรีต้องเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ ช่วงต้นเดือนเมษายน 2564 ถึงวันที่ 26 เมษายน พบผู้ป่วยยืนยันสะสม เฉพาะรอบเมษายน 1,581 ราย รักษาหายแล้ว 571 ราย คิดเป็น 36% และยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,206 ราย โดยมีเสียชีวิตรอบใหม่ 1 ราย

สำหรับผู้ป่วยที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล หากจำแนกตามระดับความรุนแรง จะมีผู้ป่วยประมาณ 80% อาการเบา คือ มีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกเล็กน้อย (60%) หรือไม่มีอาการเลย (20%) กลุ่มนี้ดูแลรักษาที่ รพ.สนาม เป็นหลัก กลุ่มถัดมาเป็นกลุ่มที่มีอาการปานกลาง คือ เชื้อเริ่มลงปอด ต้องใช้ออกซิเจนช่วยเสริม เริ่มมีอาการเหนื่อย หรือมีโรคประจำตัวร่วมด้วย ประมาณ 15% กลุ่มปานกลางนี้จะรักษาในโรงพยาบาลชุมชนประจำอำเภอ

และสุดท้ายกลุ่มรุนแรง มีประมาณ 5% เป็นกลุ่มที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดในหอผู้ป่วยวิกฤต เพราะต้องใส่ท่อช่วยหายใจ หรือ ใช้ออกซิเจนความเข้มข้นสูง ซึ่งมีจำนวนกว่า 80 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่เยอะมากทำให้ทีมแพทย์พยาบาลต้องทำงานกันอย่างหนัก ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมผู้ป่วยปกติใน รพ. ซึ่งไม่ได้ลดลงมากนัก

สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคในขณะนี้ จากเดิมเป็นกลุ่มที่ไปเที่ยวสถานบันเทิง และผู้สัมผัสใกล้ชิดในครอบครัวหรือที่ทำงาน แต่ปัจจุบันจะมีการระบาดออกไปในกลุ่มประชาชนทั่วไปเพิ่มมากขึ้น สังเกตได้จากกลุ่มป่วยใหม่ ๆ เริ่มมีหลากหลายอาชีพ เช่น ขายของชำ ขายสลากกินแบ่ง อาชีพทั่วไปที่ไม่ได้เกี่ยวกับสื่อบันเทิง หรือ เด็ก ผู้สูงอายุที่อยู่ในชุมชนที่ไม่ได้มีความเสี่ยง

แสดงว่าการระบาดมีการถ่ายทอดเป็นรุ่นที่ 3 – 4 แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่กว่า 90% ยังสามารถหาสาเหตุได้ว่าติดมาจากใครเมื่อไหร่

สิ่งที่อยากสื่อสาร คือ ตอนนี้ต้องถือว่าทุกคนมีความเสี่ยงติดเชื้อไม่แตกต่างกัน จึงต้องระมัดระวังป้องกันตนเองให้ดี ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่กับผู้อื่น หรือที่สาธารณะแม้อยู่คนเดียว (ไม่เช่นนั้นจะมีโทษตามกฎหมาย) ล้างมือบ่อย ๆ ไม่เอามือมาจับใบหน้าจมูกเมื่อยังไม่ได้ล้างมือ ออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็น (อย่างยิ่ง) กินร้อน ช้อนตัวเอง เป็นไปได้อย่ากินข้าวนอกบ้าน อาหารควรกินคนเดียว ห้ามรวมกลุ่ม เว้นระยะห่างจากผู้อื่น อย่าไปในที่แออัด ไปไหนสแกนไทยชนะ ถ้าช่วยกันอย่างนี่สัก 1 – 2 สัปดาห์ สถานการณ์ก็จะดีขึ้น

ทั้งนี้ สสจ.นนทบุรี ได้ร่วมกับ บริษัท แอ็กนอสเฮลท์ จำกัด Startup ของคนไทย ให้บริการแอปพลิเคชัน AGNOS เพื่อคัดกรองความเสี่ยง COVID – 19 ด้วยตนเอง เพื่อให้คนนนทบุรีสามารถเข้าสู่ระบบการวินิจฉัยได้รวดเร็วและเหมาะสมตามความเสี่ยง

“ประชาชนสามารถประเมินความเสี่ยงโควิด19 ของตนเอง ได้ที่ https://agnosteam96.wixsite.com/nonselfcheck” ถ้ามีความเสี่ยงสูงจะมีเจ้าหน้าที่ จาก สสจ.นนทบุรี ติดต่อประสานงานไป ภายใน 24 ชั่วโมง

ภาพจาก ข่าวสด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วานนี้ (26 เม.ย.) นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เผยว่า ตอนนี้ทางจังหวัดเป็นห่วงเรื่องผู้ป่วยวิกฤต ซึ่งมีเตียงรองรับไม่เพียงพอแล้ว สำหรับเตียงสนามนั้น จากเดิมเปิดไว้ 700 เตียง เต็มหมดแล้ว จำเป็นต้องเปิดเตียงสนามเพิ่มขึ้นอีก 300 เตียง เพื่อรอบรับผู้ป่วยติดเชื้อที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

“สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อจากกรุงเทพฯที่กระทรวงสาธารณสุขกระจายออกมาเพื่อรักษาตัวต่อในเขตปริมณฑลนั้น ทางจังหวัดนนทบุรีเองในตอนนี้ก็หนักหนาสาหัสไม่น้อยไปกว่ากรุงเทพฯเช่นกัน วิกฤตไม่แตกต่างจากกรุงเทพฯ เตียงผู้ป่วยหนักก็ไม่เพียงพอแล้ว หากทางกรุงเทพฯจะส่งมาทางจังหวัดก็คงต้องพิจารณาเป็นเคส ๆ ไป ะต้องดูแลคนนนทบุรีเป็นหลักก่อน ต้องขอความเข้าใจจากทุกฝ่ายด้วย” นายสุจินต์ กล่าว

ผู้ว่าฯนนทบุรี ประเมินอีกว่า หากสถานการณ์ของผู้ป่วยติดเชื้อในจังหวัดนนทบุรี ยังแตะระดับวันละ 100 กว่าขึ้นไป และยอดผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลง ยังคงเป็นพื้นที่สีแดงเข้มอยู่แบบนี้ จะมีการพิจารณาล็อกดาวน์ทั้งจังหวัดต่อไป

ล่าสุดวันนี้ (27 เม.ย.) ศบค. รายงานว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่มากสุดอยู่ในกรุงเทมหานคร(กทม.) จำนวน 993 ราย และทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเกินกว่า 10,069 รายแล้ว รองลงมาเป็น จ.นนทบุรี เพิ่มขึ้น 149 ราย