รถบรรทุกอีสาน 200 คัน เตรียมบุกกรุง 19 ต.ค. จี้รัฐแก้น้ำมันแพง

รถบรรทุก

รถบรรทุกภาคอีสานกว่า 200 คัน ผนึก 10 สมาคมรถบรรทุกสินค้าทั่วประเทศเตรียมยกทัพบุกเมืองกรุง 19 ตุลาคมนี้ กดดันรัฐบาลแก้ไขปัญหาน้ำมันแพง

วันที่ 16 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครราชสีมา ว่า สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เตรียมจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของผู้ประกอบการรถบรรทุกทั่วประเทศ เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซ้ำเติมความเดือดร้อนจากปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

โดยเตรียมนัดรวมพลรถบรรทุกหลายร้อยคันเคลื่อนไหวไปตามถนนเส้นสำคัญทั้ง 4 มุมเมืองรอบกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 19 ตุลาคม 2564 เพื่อกดดันรัฐบาลให้ช่วยเหลือแก้ปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วน

นายธนสันต์ กุลเภตรานนท์ รองเลขาธิการสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน เปิดเผยว่า ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ สมาคมรถบรรทุกทั้ง 10 สมาคมทั่วประเทศ นัดหมายกันที่จะนำรถบรรทุกออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวตามเส้นทางหลัก 4 มุมเมืองของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่

1. ทางหลวงหมายเลข 35 หรือถนนพระราม 2 เชื่อมต่อถนนกาญจนาภิเษก เริ่มจาก อ.เมือง จ.ราชบุรี แยกปากท่อ จ.สมุทรสงคราม จ.สมุทรสาคร ถนนกาญจนาภิเษก (ด่านทางด่านศรีรัช) ถนนบรมราชชนนี จ.นครปฐม และวนกลับที่ตั้ง

2. ถนนบางนาตราด เชื่อมต่อถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตก (บางพลี) จ.สมุทรปราการ เริ่มจากท่าสะอ้าน บางนา กม.46 บางปะกง บางพลี บางเสาธง บางพลีน้อย บางโฉลง บางนา-ตราด กม.8 และวนกลับที่ตั้ง

3. ทางหลวงหมายเลข 32 (ถนนเอเชีย) เชื่อมต่อบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เริ่มจากสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย สี่แยกพยุหะคีรี สี่แยกชัยนาท จุดบริการทางหลวง (บ้านตึก) สี่แยกชัยนาท อินทร์บุรี แยกตากฟ้า หมวดทางหลวงบางปะอิน และวนกลับที่ตั้ง

และ 4.ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) เชื่อมต่อถนนพหลโยธิน จ.สระบุรี เริ่มจาก สมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน อ.เมือง จ.นครราชสีมา อ.สูงเนิน อ.สีคิ้ว อ.ปากช่อง และวนกลับที่ตั้ง โดยทั้ง 4 เส้นทางนี้จะไม่เข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะเกรงว่าจะสร้างปัญหาด้านการจราจร

โดยในส่วนของสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน ขณะนี้มีรถบรรทุกแจ้งความประสงค์ที่จะเข้าร่วมขบวนแล้ว ประมาณ 200 คัน เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการรถบรรทุกขนส่งสินค้าภาคอีสาน ซึ่งมีอยู่กว่า 70 ราย มีรถบรรทุกอยู่รวมกันกว่า 4,000 คัน กำลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 และยังมาเจอกับปัญหาน้ำมันแพงอีก

“พวกเราทราบดีว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกขึ้นราคา แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทยสูงกว่าของประเทศเพื่อนบ้านมาก เนื่องจากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราที่สูง จนเกิดกระแสข่าวว่าประเทศเพื่อนบ้านซื้อน้ำมันจากประเทศไทย แล้วลักลอบนำกลับมาขายให้คนไทยในราคาที่ถูกกว่า เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านเขามีการจัดเก็บภาษีน้อยกว่าของเรามาก”

“ดังนั้นเรื่องนี้ผู้ประกอบการจึงเห็นว่ารัฐบาลควรจะออกมาตรการลดค่าภาษีสรรพสามิตลงอย่างน้อยราคาลิตรละ 5 บาท เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี หรือนำเงินกองทุนพลังงานมารักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับ 25 บาทต่อลิตร เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของรถบรรทุกขนส่งสินค้าได้บ้าง และถ้าหากการเคลื่อนไหวแสดงพลังเชิง”

“สัญลักษณ์ในครั้งนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาล สมาคมรถบรรทุกทั้ง 10 สมาคมทั่วประเทศก็เตรียมที่จะประกาศหยุดวิ่งรถบรรทุกขนส่งสินค้าทั่วประเทศต่อไป”