โควิดภูเก็ต พุ่ง 400 ราย ปรับแผนแซนด์บอกซ์เวอร์ชั่น 2 รับมือ

สนามบินภูเก็ต

ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เผย โควิดภูเก็ต พุ่งกว่า 400 ราย ยอดติดเชื้อต่างชาติพุ่ง รพ.เอกชน มีเตียงจำกัด เตรียมปรับแผนรับมือ

วันที่ 7 มกราคม 2565 นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ข้อมูลสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต รายงานสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดประจำวันที่ 6 มกราคม 2565 พบผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมด 415 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 256 ราย ผู้ติดเชื้อต่างประเทศ 1 ราย Phuket Sandbox 97 ราย Test&Go 61 ราย ถือว่าเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข และทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศยกระดับขึ้นมาแล้ว

โดยจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย ATK ที่ซอยบางลา ป่าตอง มีพนักงานและผู้ประกอบการร้านอาหารกึ่งผับภายในซอยบางลา หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เข้าตรวจเชื้อประมาณ 1,000 คน เพราะต้องการสร้างความเชื่อมั่นในการให้บริการ ทั้งในส่วนของประชาชนชาวป่าตอง นักท่องเที่ยว และพนักงานเอง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มกลับมาอีกครั้ง

ทั้งนี้ เป็นความร่วมมือของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอกะทู้, โรงพยาบาลป่าตอง, ชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิง หาดป่าตอง, มูลนิธิพัฒนาป่าตอง และเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลเมืองป่าตอง ที่ให้บริการตรวจฟรี และสำหรับผลการตรวจ ATK ในพื้นที่หาดป่าตอง ณ ซอยบางลา จำนวน 948 คน ปรากฎว่า ผลเป็นบวก 159 คน ซึ่งทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการรักษาแล้ว

“ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงมากขึ้น มีบางส่วนที่เป็นบุคลากร แต่เราต้องรับได้ ต้องเดินหน้าอย่างเดียว และนอกจากต้องเข้มงวดในการควบคุมโรคแล้วเรายังมีการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วย โดยถูกมอบหมายให้เป็นประตูของประเทศจึงต้องทำหลายเรื่องในเวลาเดียวกัน โดยทางจังหวัดได้นำเรียนปัญหาต่าง ๆ ไปยังส่วนกลาง รัฐบาลก็ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่รับผิดชอบเรื่องนี้ลงมาติดตามพร้อมรับเรื่องดังกล่าว รวมถึงปัญหาอื่น ๆ ด้วย เพื่อเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยกันแก้ไข”

ADVERTISMENT

นายณรงค์ กล่าวว่า ด้านการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ของจังหวัดภูเก็ตยังคงสามารถรองรับผู้ป่วยได้อยู่ เตียงของคนไทยยังไม่เต็ม ศักยภาพออกแบบโครงสร้างของสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตดูแลได้ 4 แสนคน ขณะที่ผู้ป่วยชาวต่างชาติมีจำนวนผู้ติดเชื่อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนหน้านั้นมีเพียงโรงพยาบาลเอกชนที่รองรับ ซึ่งเตียงมีจำนวนจำกัด และบุคคลากรไม่เพียงพอ

ฉะนั้นต้องใช้โรงแรมมาทำโรงพยาบาลเพิ่ม นำผู้ที่ติดเชื้อที่ตรวจเจออยู่สนามบินมารักษาอยู่โรงแรมและที่พักเลย แต่ชาวต่างชาติที่เข้าทำการรักษาต้องจ่ายเงินค่ารักษาด้วยตนเอง เพราะงบประมาณของทางภาครัฐจะต้องเตรียมไว้ให้กับคนไทย หากชาวต่างชาติไม่มีประกันครอบคลุมหรือประกันหมดอายุ ไม่มีกำลังจ่ายเพื่อทำการรักษาตัวอยู่ในโรงแรมที่พัก ก็ต้องมาหารือกันเพื่อแก้ปัญหาส่วนนี้ต่อไป

ADVERTISMENT

“ยังมีอีกหลายส่วนอาจเกี่ยวข้องทั้งประเทศเพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้ลุล่วงไปได้ รวมทั้งในส่วนภูเก็ตแซนด์บอกซ์ เวอร์ชั่น 2 มีหลายประเด็นที่ได้เสนอขึ้นไปยังส่วนกลาง ทั้งจากปัญหาต่าง ๆ ที่พบอยู่หน้างานตลอดทุกวัน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารของจังหวัดภูเก็ต และนายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมร่วมกับกงสุลใหญ่และกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำจังหวัดภูเก็ต จำนวน 8 ประเทศ

ประกอบด้วย กงสุลใหญ่ออสเตรเลีย (Australia) กงสุลกิตติมศักดิ์ออสเตรีย (Austria) กงสุลกิตติมศักดิ์เม็กซิโก (Mexico) กงสุลกิตติมศักดิ์เนปาล (Nepal) กงสุลกิตติมศักดิ์เนเธอร์แลนด์ (Netherlands) กงสุลกิตติมศักดิ์นอร์เวย์ (Norway) กงสุลใหญ่ สหพันธรัฐ รัสเซีย ประจำจังหวัดภูเก็ต (Russia) และกงสุลกิตติมศักดิ์สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) เข้าร่วมประชุมเพื่อหารือแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตด้วย

ในที่ประชุมได้นำเสนอข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดภูเก็ต รวมถึงมาตรการคุมเข้มการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กฎระเบียบสำหรับชาวต่างประเทศเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

รวมไปถึงสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้กงสุลใหญ่และกงสุลกิตติมศักดิ์ได้รับทราบ และนำข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติที่อาศัยในจังหวัดภูเก็ตได้รับทราบถึงมาตรการต่างๆ ในการที่ทางจังหวัดออกมาเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และ ขอความร่วมมือกงสุลใหญ่และกงสุลกิตติมศักดิ์ ได้เผยแพร่แนวทางการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ หากการสอบสวนโรคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตพบว่าชาวต่างชาติรายใดเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงสุด หรือหากผลการทดสอบพบว่าติดเชื้อโควิด-19 หรืออยู่ในกลุ่มที่เสี่ยง ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการเตรียมเข้ารับการรักษาตามสถานที่ที่สำนักงานสาธารณสุขกำหนดโดยเคร่งครัด ซึ่งมาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับประชาชนคนไทยที่พักอาศัยในจังหวัดภูเก็ต หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษทางกฎหมาย และมีผลต่อการพิจารณาอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักร

นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือของกงสุลใหญ่และกงสุลกิตติมศักดิ์ชประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติสวมหน้ากากอนามัย ตามคำสั่งของจังหวัดภูเก็ตที่ 62/2564 กำหนดให้ผู้ใดที่ออกนอกเคหสถาน ที่พักอาศัยในบ้าน โรงเรือน อาคารสถานที่ หรือพาหนะ หรืออยู่ในที่สาธารณะ สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง และห้ามกระทำการหรือดำเนินการใดๆ

ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป เว้นแต่ อยู่ในขณะรับประทานอาหารเครื่องดื่ม หรือออกกำลังกาย หากผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทางด้าน กงสุล และกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำจังหวัดภูเก็ต ได้เสนอขอให้จังหวัดจัดสรรโควตาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ต โดยขอระยะเวลาที่ชาวต่างชาติจะได้รับวัคซีนโควิด-19และขอให้จังหวัดภูเก็ตส่งข้อมูลกฎระเบียบของจังหวัดภูเก็ต ให้กงสุลอย่างรวดเร็ว ผ่านกลุ่มLine เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการดึงข้อมูลไปใช้ในการประชาสัมพันธ์เพื่อกงสุลจะได้จัดการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวของตนเองได้รับทราบและปฏิบัติตามให้เกิดความถูกต้องต่อไป