กรีนบัส ผุดคอมมิวนิตี้มอลล์ GreenPark

“กรีนบัส” แตกไลน์ทำธุรกิจคอมมิวนิตี้มอลล์ “โครงการ Green Park” บนที่ดิน 5 ไร่ ถนนสายเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด-เชียงราย คาดเปิดให้บริการเฟสแรกได้ มี.ค. 65 หลังธุรกิจรถโดยสารอ่วมพิษโควิดขาดทุนต่อเนื่อง 2 ปีกว่า 100 ล้านบาท ชี้การเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง คนลดลงต่อเนื่อง พร้อมพับแผนลงทุนโครงการ Rest Area

นายสมชาย ทองคำคูณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด ผู้ให้บริการธุรกิจขนส่งรถโดยสารประจำทางสายเหนือ (กรีนบัส) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทได้รับผลกระทบค่อนข้างหนักมากจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้การเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 โดยรายได้ในปี 2563 อยู่ที่ 80 ล้านบาท ขาดทุน 50 ล้านบาท และปี 2564 รายได้อยู่ที่ 80 ล้านบาทเช่นกัน ขาดทุน 50 ล้านบาท คิดเป็นรายได้เพียง 20% ของปี 2562 ที่มีรายได้ราว 400 ล้านบาท กล่าวคือในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทขาดทุนรวม 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังมีความจำเป็นต้องกู้เงินจากสินเชื่อ soft loan กว่า 80 ล้านบาท เพื่อนำมาเติมสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้บริษัทมีหนี้สินเพิ่ม ดังนั้นในปี 2565 จึงต้องเร่งหารายได้ให้มากขึ้น และปรับตัวลดต้นทุนค่าใช้จ่ายทุกด้าน รวมถึงเดินหน้าแผนการลงทุนที่มีความเป็นไปได้และมีความเสี่ยงน้อย ส่วนแผนการลงทุนที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากต้องชะลอการลงทุนออกไปก่อน

นายสมชายกล่าวต่อไปว่า เดิมมีแผนงานหลักในปี 2564 คือ การลงทุนทำโครงการ Rest Area และ Station บนที่ดินที่มีอยู่ในภาคเหนือ เช่น ที่แม่ขะจาน อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย จำนวน 80 ไร่ มีแผนจะทำเป็นจุดแวะพักรถโดยสารระหว่างทาง (Rest Area) ที่จะให้บริการรถโดยสารของกรีนบัส และบริการสำหรับคนทั่วไป มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของฝาก ครบวงจร หรือที่ดินในตัวเมืองเชียงราย 20 ไร่ จะทำเป็นสถานี (Station+Plaza) เป็นต้น ซึ่งเป็นการนำสินทรัพย์ที่ดินที่มีอยู่มาเพิ่มมูลค่า แต่ต้องชะลอการลงทุนโครงการนี้ออกไปก่อน เพราะถือว่ายังมีความเสี่ยงมากภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน

โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทต้องเร่งปรับตัวและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายทุกด้าน โดยตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ได้ลดค่าจ้าง-เงินเดือนพนักงานทุกระดับ 30-80% เพื่อช่วยกันพยุงสถานะของบริษัทให้สามารถอยู่ได้ในสถานการณ์วิกฤตนี้ ซึ่งจากเดิมมีค่าใช้จ่ายเงินเดือนพนักงานราว 12-13 ล้านบาทต่อเดือน ขณะนี้ลดลงมาเหลือเพียง 4.8 ล้านบาทต่อเดือน โดยยังมีเงินเดือนที่ค้างจ่ายพนักงานอีก 49 ล้านบาท เนื่องจากบางเดือนขาดสภาพคล่องมาก ต้องติดค้างพนักงานไว้ ซึ่งพนักงานทุกคนเข้าใจ ขณะเดียวกันได้ทำการเลิกจ้างพนักงานไปแล้วราว 120 คน ปัจจุบันเหลือพนักงานอยู่ราว 480 คน

ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสารเป็นหลัก แต่ปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการไม่ถึง 10% หรือหายไปกว่า 90% ทำให้ต้องลดจำนวนเที่ยววิ่งรถเกือบทั้งหมด เหลือเพียงเส้นทางที่ยังพอมีการเดินทางอยู่บ้างในแต่ละวัน

ได้แก่ เส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย-แม่สาย-เชียงแสน เชียงใหม่-น่าน และเชียงใหม่-พะเยา ส่วนเส้นทางข้ามภูมิภาค มีเพียงเส้นทางเชียงใหม่-ภูเก็ต ที่ยังคงวิ่งอยู่ 2 เที่ยวต่อสัปดาห์ โดยบริษัทมีรถบัสทั้งสิ้นจำนวน 120 คัน ใช้งานในปัจจุบันเพียง 30% หรือ 40 คัน ส่วนที่เหลืออีก 80 คัน ต้องจอดทิ้งไว้และถอดอะไหล่ออก เพื่อรักษาสภาพเครื่องยนต์

นายสมชายกล่าวต่อว่า ในปี 2565 บริษัทมีแผนลงทุนโครงการ “Green Park” เป็นคอมมิวนิตี้มอลล์ บนที่ดิน 5 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินของบริษัทเอง บนถนนสายเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด-เชียงราย ฝั่งตรงข้ามกับที่ตั้งสำนักงานและอู่รถของกรีนบัส ใช้เงินลงทุนกว่า 70 ล้านบาท โดยเริ่มพัฒนาโครงการมาตั้งแต่ปี 2564 วางรูปแบบให้เป็นคอมมิวนิตี้มอลล์ที่มีความทันสมัย เข้าถึงง่าย มีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการครบในที่เดียว มีที่จอดรถกว่า 80 คัน

ซึ่งขณะนี้มีร้านค้าที่เป็นพันธมิตรเข้าร่วมเช่าพื้นที่เพื่อทำธุรกิจภายในโครงการจำนวนมาก อาทิ โลตัส เคเอฟซี ร้านชาบู ร้านอาหาร เป็นต้น ขณะนี้โครงการมีความคืบหน้าด้านการก่อสร้างแล้ว 80% คาดว่าจะเปิดให้บริการในเฟสแรกประมาณเดือนมีนาคม 2565

“โครงการ Green Park จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ที่ชอบความทันสมัย สะดวก มีเวลาน้อย เข้าถึงสินค้าและบริการง่าย รวดเร็ว ถือเป็นการแตกไลน์ธุรกิจจากรถโดยสารประจำทาง เรามองเห็นโอกาสทางการตลาดว่าเป็นไปได้สูง และเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่คาดว่าจะมีการเติบโตไปในทิศทางที่ดี”