ผู้ว่าฯระยองเผย SPRC แจงน้ำมันดิบรั่วไม่เกิน 5 หมื่นลิตร คาดกระทบน้อยกว่าปี’56

ผู้ว่าฯระยองเผย SPRC แจงน้ำมันดิบรั่วไม่เกิน 5 หมื่นลิตร ตอนนี้จัดการเหลือในทะเลแค่ 4 พันลิตร คาดกระทบน้อยกว่าปี 2556

วันที่ 28 มกราคม 2565 นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า สรุปสถานการณ์น้ำมันรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล บริษัทสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC

1.บริษัทประเมินว่ามีการรั่วไหลไม่เกิน 50,000 ลิตร (จากเดิมที่คำนวณไว้ที่ 400,000 ลิตร เป็นการคำนวณในความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุดและดำเนินการในเวลากลางคืน ต่อมาช่วงเช้ามีการประมาณการใหม่ว่ามีจำนวน 160,000 ลิตร และส่งนักประดาน้ำสำรวจรอยแตก คาดว่าน่าจะรั่วไหลไม่เกิน 50,000 ลิตร จะมีการตั้งกรรมการ 3 ฝ่ายไปตรวจสอบยืนยันอีกครั้ง)

ขณะนี้มีการควบคุมสถานการณ์ โดยโปรยน้ำยาขจัดคราบน้ำมัน (Dispersant)* ซึ่งเป็นสารที่ทำให้น้ำมันย่อยสลายได้โดยแบคทีเรียธรรมชาติตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาจนถึงขณะนี้ ประกอบกับกระแสลมและกระแสน้ำในขณะนี้ค่อนข้างนิ่ง ทำให้สามารถควบคุมการกระจายตัวของน้ำมันได้ค่อนข้างดี คาดว่ามีปริมาณน้ำมันเหลือในทะเลประมาณ 4,000 ลิตร

2.มีการทำแนวป้องกันเพื่อไม่ให้น้ำมันไหลไปยังชายฝั่งได้ ใช้กลยุทธ์ ล้อม กัก เก็บ ทำลาย อย่างไรก็ดี เมื่อ 14.00 น. ของวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา พบคราบน้ำมันที่มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร กว้าง 1.2 กิโลเมตร มีการแตกเป็นริ้ว ๆ ตลอดแนว ทำให้ไม่สามารถล้อม กัก เก็บ ได้ จะต้องกำจัดด้วยการฉีดน้ำยาเพียงวิธีเดียว

3.จากการประเมินการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันเมื่อวานนี้ มีการคาดการณ์ว่า น้ำมันมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นฝั่งจึงดำเนินการเฝ้าระวัง และสกัดไม่ให้น้ำมันขึ้นฝั่งตลอดคืนที่ผ่านมา ซึ่งทางพี่น้องประมงชายฝั่งก็ได้เข้าร่วมในภารกิจนี้ด้วย อย่างไรก็ดี จากการบินสำรวจโดยกองทัพเรือภาคที่ 1 ในห้วงเวลา 7.30 น. วันนี้ ยังไม่มีคราบน้ำมันขึ้นชายฝั่ง และตอนนี้กระแสน้ำได้พัดไปทางบริเวณเขาแหลมหญ้า แต่ยังมีระยะทางห่างชายฝั่งประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมมือกันอย่างสุดความสามารถ เพื่อไม่ให้มีคราบน้ำมันขึ้นฝั่ง และจากการสำรวจคราบน้ำมันเมื่อเวลา 9.30 น. 3 จุดสุดหาดแม่รำพึง ลานหินขาว และโค้ง สอต. ยังไม่พบคราบน้ำมัน

4.การรับมือกับสถานการณ์น้ำมันรั่ว มีการทำแผนเพื่อรับมืออย่างเป็นขั้นตอนตามระดับความรุนแรงไว้อยู่แล้ว การปฏิบัติงานในการแก้ไขสถานการณ์จึงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยความร่วมมือของทั้งภาครัฐ และความร่วมมือของเอกชนเองที่มีการตั้งสมาคมไว้ และในขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริษัทสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ทัพเรือภาค 1 กรมเจ้าท่า มีการร่วมประชุม วางแผนแก้ปัญหา และเตรียมกำลังพลและอุปกรณ์สนับสนุนการควบคุมคราบน้ำมันร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหา และเตรียมทำความสะอาดชายหาด

5.คาดการณ์ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจะน้อยกว่าสถานการณ์ในปี 2556 เนื่องจากลมสงบและคลื่นน้อย ทำให้การกระจายตัวของคราบน้ำมันช้าลง อย่างไรก็ดี ขอให้ประชาชนในบริเวณที่ได้รับผลกระทบปฏิบัติตามข้อแนะนำของกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัดครับ หากได้รับผลกระทบ ต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งศูนย์ดำรงธรรมได้ที่เบอร์ 1567 หรือแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ครับ

6.เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างมีเอกภาพ ขอให้ประชาชนรับข่าวสารจากศูนย์ปฏิบัติการของกองทัพเรือภาคที่ 1 เท่านั้น ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการจะมีการรายงานสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะ ที่ https://www.facebook.com/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-1-First-Naval-Area-Command-106185528133662/

*สารที่ใช้จะทำให้น้ำมันแตกตัวให้เล็กลงในระดับที่แบคทีเรียตามธรรมชาติสามารถย่อยสลายได้หมด น้ำมันที่รั่วไหลจำนวนหนึ่งจะระเหยไปในอากาศ แต่บางส่วนที่เกาะกันเป็นกลุ่มก้อนมีความหนาแน่น อาจจะตกตะกอนลงไปในพื้นทะเล และใช้เวลาย่อยสลายภายใน 8-10 วัน ทั้งนี้ จะมีการเก็บตัวอย่างสัตว์ทะเล ไปเพื่อศึกษา วิเคราะห์ว่ามีการปนเปื้อนหรือไม่ด้วย