20 บริษัทต่างชาติ ทั้ง “สวิตเซอร์แลนด์-แคนาดา-อเมริกา-อิสราเอล-สเปน” เสนอให้เงินกู้ลงทุนพัฒนา “กัญชาทางการแพทย์” ในไทย รายละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านยูโร หลังเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนนิคมสมุนไพรสัมพันธ์ตะวันตก และศูนย์อภิบาลด้วยพืชสมุนไพรแห่งริเวอร์แคว เดินสายโรดโชว์งาน International Cannabis Business Conferrence ที่เยอรมนี
นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนนิคมสมุนไพรสัมพันธ์ตะวันตก และประธานศูนย์อภิบาลด้วยพืชสมุนไพรแห่งริเวอร์แคว ซึ่งได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชาทางการแพทย์ ตามใบอนุญาตเลขที่ กจ 10/2565(ป) รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยจำนวน 512,000 ต้น เปิดเผยภายหลังการเดินทางไปโรดโชว์ที่งาน International Cannabis Business Conferrence ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 กรกฎาคม 2565
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
โดยมีกลุ่มนักธุรกิจด้านกัญชารายใหญ่จากทั่วโลกกว่า 5,000 คน จาก 80 ประเทศทั่วโลกมาร่วมงานว่า ทางเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนนิคมสมุนไพรสัมพันธ์ตะวันตก ได้เดินทางไปโรดโชว์เพื่อให้นานาชาติได้รับทราบถึงการพัฒนากัญชาทางการแพทย์ของประเทศไทย โดยได้รับเกียรติให้ขึ้นเวทีไปประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักธุรกิจมาลงทุนเกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์ หลังจากรัฐบาลไทยได้ปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด และให้การสนับสนุนเป็นพืชเศรษฐกิจ
พร้อมผลักดันให้เป็นกัญชาทางการแพทย์ระดับโลก และต้นทุนการปลูกกัญชาของไทยต่ำกว่าในยุโรป ลักษณะภูมิอากาศของไทยได้เปรียบกว่าทั่วโลกในเรื่องอุณหภูมิและกายภาพของแสงแดด จึงทำให้ไทยมีจุดเด่นที่เหนือกว่า
หลังการบรรยายมีนักลงทุนจากทั่วโลกกว่า 20 บริษัท ทั้งจากสวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา อเมริกา อิสราเอล สเปน สนใจให้เงินลงทุนหรือร่วมทุนจัดทำกัญชาทางการแพทย์ รายละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านยูโร นับว่าประสบความสำเร็จทั้งที่กฎหมายและ พ.ร.บ.การส่งออกยังไม่สมบูรณ์ ถือว่ากัญชาไทยมีความต้องการจากตลาดโลกมากที่สุด
นายวิศารท์กล่าวต่อไปว่า ระหว่างวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2565 ในงาน Berlin B2B Tradeshow ณ โรงแรม Estrel กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ทางเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนนิคมสมุนไพรสัมพันธ์ตะวันตก ได้รับเกียรติให้ขึ้นบรรยายเกี่ยวกับสถานการณ์กัญชากับเศรษฐกิจโลก นับว่ากัญชาไทยได้รับการตอบรับ โดยมีความต้องการจากตลาดโลกจำนวนมาก
สำหรับการเดินทางไปร่วมงานครั้งนี้ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้นำกัญชาไทยไปจัดแสดงด้วย โดยมีการแสดงพื้นที่การปลูก จำนวนการปลูก วิธีการปลูก โดยเฉพาะสายพันธุ์กัญชาไทยได้รับการตอบรับจากผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากตลอด 2 วัน ถือว่าสายพันธุ์กัญชาไทยมีความโดดเด่นทางกายภาพและสารสำคัญที่เกิดขึ้น รวมถึงความตื่นเต้นในการนำกัญชาและสารสำคัญที่นำไปใช้ในทางการแพทย์ให้กับคนทั่วโลก
“กัญชาไทยเป็นสายพันธุ์ที่มีความต้องการในตลาดโลกสูง มีศักยภาพ แต่จะต้องปลูกให้มีมาตรฐานที่ดี เป็นระบบออร์แกนิก 100% จะมีตลาดรองรับไม่จำกัด จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนและส่งเสริม รวมถึงข้อกฎหมายอื่น ๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านการแพทย์ เพื่อมวลมนุษยชาติต่อไป” นายวิศารท์กล่าว
