เศรษฐกิจภูมิภาค

ทุนมาเลย์รุกเทกโอเวอร์โรงแรมสงขลา

ด่านสะเดา

ทุนมาเลย์แห่เทกโอเวอร์กิจการโรงแรม-แหล่งบันเทิง “ด่านนอก-หาดใหญ่” หลังเปิดประเทศนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 7 หมื่นคน/วัน

ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา ที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการรักษ์ด่านนอก เทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา และนายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาวะธุรกิจการค้า การท่องเที่ยวชายแดนไทย-มาเลเซียใน อ.สะเดา จ.สงขลา เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ โดยผู้ประกอบการกลุ่มโรงแรม กลุ่มสถานบันเทิง ร้านอาหาร ร้านค้า ฯลฯ ส่วนใหญ่ได้กลับมาเปิดให้บริการแล้ว

โดยเฉพาะบริเวณบ้านด่านนอก เทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา รอยต่อกับบ้านบูกิตกายูอิตัม รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย และบ้านปาดังเบซาร์ เทศบาลตำบลปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา รอยต่อกับรัฐปะลิส มาเลเซีย

ทั้งนี้ กิจการที่กลับมาเปิดดำเนินการในพื้นที่บ้านด่านนอก เทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ส่วนหนึ่งมีการเทกโอเวอร์เปลี่ยนเจ้าของกิจการไปแล้วประมาณ 10-20% โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจบันเทิง กลุ่มธุรกิจโรงแรม ที่ขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินเหลือในการประคองธุรกิจ โดยมีนักลงทุนจากประเทศมาเลเซียเข้ามาซื้อกิจการ ขณะที่การซื้อขายสถานประกอบการอีกหลายแห่งยังไม่มีข้อสรุป

ตอนนี้บริเวณด่านนอกผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง โรงแรม ฯลฯ กลับมาเปิดให้บริการแล้วประมาณ 80% หลังจากปิดตัวมากว่า 2 ปีจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการต้องลงทุนปรับปรุงตบแต่งสถานที่และซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากที่เสียหายไป เช่น เครื่องเสียง โทรทัศน์ ฯลฯ เบื้องต้นคาดว่าแต่ละรายต้องใช้เงินลงทุนขั้นต่ำตั้งแต่ 100,000 บาท จนถึง 10 ล้านบาท

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของสถานประกอบการ ยกตัวอย่างในกลุ่มโรงแรมของตนต้องใช้เงินลงทุนในการรีโนเวตประมาณ 10 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการอีก 20% ที่ยังไม่เปิดดำเนินการส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ให้เช่า แต่คาดว่าช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 จะมีผู้เช่ามาเปิดดำเนิน ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่มาบริเวณด่านนอกส่วนใหญ่นักเที่ยวประเภทอิสระ และคนที่เข้ามาจัดงานเลี้ยงรับรอง

ส่วนบ้านปาดังเบซาร์ เทศบาลตำบลปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา รอยต่อกับรัฐปะลิส มาเลเซีย ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟของไทยกับรถไฟของมาเลเซีย บริเวณนี้ถือเป็นย่านการค้าที่มีผู้คนสัญจรไป-มากลับมาเปิดดำเนินการเต็ม 100% แล้ว

ดร.สิทธิพงษ์กล่าวต่อไปว่า สำหรับเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ตอนนี้กิจการร้านอาหาร ร้านค้า สถานบริการ และสถานบันเทิง ฯลฯ กลับมาเปิดให้บริการเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์แล้วเช่นกัน เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว กรุ๊ปทัวร์เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวด้วยรถบัส รถตู้จำนวนมาก จนทำให้อาคารว่างที่เคยเปิดหาผู้เช่าเริ่มหายากสำหรับผู้ที่จะเข้ามาลงทุนรายใหม่

ในเดือนมิถุนายน 2565 นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เดินทางเข้ามาที่ จ.สงขลา ประมาณ 77,000 คน ถือว่าเติบโตแบบก้าวกระโดด จากกว่า 2,000 คน/วัน มาเป็น 40,000 คน/วัน และ 77,000 คน/วัน ทั้งหมดเป็นจากการยกเลิกไทยแลนด์พาส ฯลฯ และในเดือนกรกฎาคม 2565 นี้ คาดการณ์นักท่องเที่ยวจะเพิ่มเป็นกว่า 3,000 คน/วัน ยกเว้นวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดยาว จะเพิ่มเป็นประมาณ 5,000 คน/วัน เฉลี่ยค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 บาท/คน ภาพรวมตกประมาณ 500 ล้านบาท/เดือน