“ฮับค้าส่ง” แสนล้านเปลี่ยนทิศ ออนไลน์พ่นพิษลูกค้าหดหายยอดไม่ฟื้น

ประตูน้ำ-โบ๊เบ๊

หมดยุคทองฮับค้าส่งแสนล้าน ศูนย์ค้าปลีกค้าส่งยักษ์ย่านประตูน้ำ-โบ๊เบ๊ ไม่คึกคัก ร้านค้าโอดโควิดซา-เศรษฐกิจฟื้นแล้ว แต่ลูกค้าไทย-ต่างประเทศยังไม่กลับมา เผยรายย่อยเบนเข็มซื้อผ่านออนไลน์สั่งตรงจากโรงงาน “ลาซาด้า-ช้อปปี้” ดิ้นปรับตัว ลดค่าใช้จ่ายสารพัดรูปแบบ ส่วนรายที่ไปต่อไม่ไหวทยอยโบกมือลาโรง ประกาศขาย-เซ้งร้าน

แหล่งข่าวจากวงการค้าส่งเสื้อผ้าแฟชั่นย่านประตูน้ำรายหนึ่ง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะผ่านพ้นไปแล้ว และเศรษฐกิจกำลังซื้อเริ่มค่อย ๆ กลับสู่ภาวะปกติ แต่สำหรับธุรกิจค้าปลีกค้าส่งในภาพรวมยังไม่ฟื้นตัวกลับมา ตอนนี้มีลูกค้ากลับมาจับจ่ายซื้อสินค้าบ้างแต่ยังมีจำนวนไม่มากนัก เช่นเดียวกับยอดขายที่ยังไม่กลับมาเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ลูกค้าในประเทศกลับมาในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังถือว่าไม่มากนัก เช่นเดียวกับลูกค้าชาวต่างประเทศที่มีกลับมาเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น

ลูกค้าช็อปออนไลน์สั่งตรงจาก รง.

ที่สำคัญคือ ขณะนี้ภาพของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เนื่องจากลูกค้าทั้งที่เป็นผู้ประกอบการร้านรายย่อย ร้านค้าในต่างจังหวัด หรือลูกค้าทั่ว ๆ ไป หันไปซื้อสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ จากเดิมที่ลูกค้าจะเดินทางมาที่ศูนย์มาที่ร้านเพื่อดูสินค้าและซื้อไปขาย หรือซื้อไปใช้เอง

“เดี๋ยวนี้ลูกค้าใครลูกค้ามัน มีการตั้งเป็นกลุ่มไลน์ร้านค้ากับกลุ่มลูกค้า เมื่อมีสินค้าใหม่มาก็จะโพสต์รูปลงในไลน์ ลูกค้าใครสนใจก็จะสั่งออร์เดอร์เข้ามา ไม่ต้องเดินทางมาที่ร้าน ถ้าจะมีเดินทางมาสั่งที่ร้าน หลัก ๆ จะเป็นลูกค้าที่ต้องการเสื้อสี และมีการสั่งสกรีนหรือพิมพ์ลาย ตอนนี้ยอดขายหน้าร้านในแต่ละวันขายได้น้อย หรือขายส่งก็นานทีถึงจะมีออร์เดอร์ ตอนนี้เป็นเหมือน ๆ กันหมด ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ในย่านประตูน้ำหรือโบ๊เบ๊”

แหล่งข่าวรายนี้ยังกล่าวด้วยว่า โดยส่วนตัวมองว่า จากนี้ไป ตลาดค้าปลีกค้าส่งที่เคยมีเม็ดเงินสะพัดเฉียด ๆ แสนล้านบาทในยุคเพื่องฟูเมื่อสัก 10-11 ปีที่ผ่านมา ไม่น่าจะกลับไปเหมือนเดิมแล้ว ตอนนี้ออร์เดอร์ของลูกค้ารายใหญ่ในต่างจังหวัด เช่น ขอนแก่น เชียงใหม่ ฯลฯ ลดลงมาก เมื่อก่อนลูกค้าพวกนี้เดิมเคยขายได้เป็นล้าน (บาท) หรือหลายแสนต่อวัน แต่เดี๋ยวนี้ขายได้แค่หลักหมื่น มันขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อด้วย

ตัวเลขตลาดขายส่งที่ลดลงหรือหายไป หลัก ๆ นอกจากปัจจัยในเรื่องเศรษฐกิจแล้ว ที่สำคัญคือปัจจุบันลูกค้าและคนทั่ว ๆ ไปสามารถที่จะสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ได้สะดวกขึ้น สามารถเปรียบเทียบราคาได้ จึงทำให้ลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการหันไปสั่งสินค้าจากต้นทางที่โรงงานในต่างประเทศได้โดยตรง โดยเฉพาะจีนที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ โดยไม่จำเป็นต้องมาซื้อผ่านพ่อค้าคนกลาง ขณะที่ลูกค้ารายย่อย หรือคนทั่ว ๆ ไปที่ต้องการซื้อสินค้าก็สามารถหาซื้อได้จากช้อปปี้ ลาซาด้า ทั้งเสื้อผ้า ของใช้จิปาถะ

“ตอนสถานการณ์โควิดเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ร้านปิดขายไม่ได้ หลายรายปรับตัวและหันมาใช้ไลน์ในการค้าขาย ซึ่งก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้พอโควิดหมดไป แต่ลูกค้าก็ยังไม่กลับมาเหมือนเดิม คือไม่กลับมาที่ร้านไม่มาสั่งของจากร้าน แต่หันไปซื้อของจากออนไลน์เป็นหลัก และจากนี้ไปศูนย์ค้าส่งอาจจะไม่ตอบโจทย์เหมือนเดิมแล้ว”

ปรับตัวลดภาระลดต้นทุนสู้

แหล่งข่าวจากร้านค้าส่งเสื้อผ้าแฟชั่น-เสื้อผ้าเด็ก จากโบ๊เบ๊ ทาวเวอร์ รายหนึ่งกล่าวในเรื่องนี้ว่า ตอนนี้แม้ตลาดค้าปลีกค้าส่งในภาพรวมจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาบ้าง ลูกค้าเริ่มกลับมาเดิน แต่ก็ยังเป็นจำนวนที่ไม่ได้มากนัก และไม่คึกคักเหมือนเมื่อช่วงก่อนโควิด สำหรับร้านค้าที่เปิดอยู่ในโบ๊เบ๊ ทาวเวอร์ ตอนนี้มีรายที่สู้ไม่ไหวหายไป (ปิดร้าน) 30-40% ลูกค้าที่หายไปประมาณ 70-80% เห็นจะได้ ร้านที่เปิดอยู่ส่วนใหญ่จะมีลูกค้าประจำ ค้าขายกันมานาน แต่ลูกค้าใหม่ ๆ ไม่มีมาเดิน

ตอนนี้คนที่เปิดอยู่จะมีการปรับตัว เพื่อลดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุน เช่น จากเคยจ้างคนมาช่วยขายก็ไม่จ้าง ลดการสต๊อกสินค้า หากมีสินค้าใหม่ก็จะโพสต์รูปสินค้าให้ลูกค้าดูก่อน ว่าใครจะสั่งมากน้อยแค่ไหน จึงค่อย ๆ สั่งออร์เดอร์ไป หากจะสต๊อกสินค้าไว้ก็จะสต๊อกไม่มาก เน้นให้เป็นภาระน้อยที่สุด

“ไม่ใช่เฉพาะตลาดบ้านเราที่เปลี่ยนไป ผมเพิ่งกลับจากจีน สมัยก่อนศูนย์ค้าส่งจะมีร้านค้าขนาดใหญ่และมีการสต๊อกสินค้าไว้ขาย แต่เดี๋ยวนี้ร้านค้าลดลงมาก ศูนย์ค้าส่งก็ลดลงเช่นกัน ร้านที่เปิดจะเป็นเพียงการเอาสินค้าตัวอย่างมาแขวนโชว์ เพื่อให้ลูกค้าสั่ง เพราะส่วนใหญ่จะเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์”

ตลาดเงียบ-ยอดขายยังไม่ฟื้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจศูนย์ค้าส่งในย่านประตูน้ำหลาย ๆ แห่ง อาทิ แพลทินัม กรุงทองพลาซ่า ซิตี้คอมเพล็กซ์ ใบหยก 1 ใบหยก 2 อินทรา สแควร์ และพาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง พบว่าร้านค้าของทุกศูนย์การค้ากล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ตอนนี้บรรยากาศของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งโดยรวมค่อนข้างเงียบ แม้จะมีลูกค้ากลับมาเดินซื้อบ้าง แต่ก็ยังมีไม่มากนัก ยอดขายก็ยังไม่กลับมา เพราะคนที่มาซื้อก็ไม่ได้ซื้อเยอะเหมือนแต่ก่อน ยอดขายที่เกิดขึ้นหลัก ๆ มาจากการค้าส่ง ร้านค้าที่ยังพอขายได้ส่วนใหญ่ก็มีลูกค้าประจำ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีร้านค้าจำนวนหนึ่งมีการปรับตัวไปขายผ่านออนไลน์ และใช้ร้านเป็นที่สต๊อกสินค้าเพื่อส่งให้ลูกค้า

ขณะที่เจ้าของร้านค้าเสื้อผ้าแฟชั่นที่ศูนย์การค้าแพลทินัมคุยให้ฟังว่า ตลาดในภาพรวมยังไม่คึกคักเหมือนเมื่อก่อน ไม่ได้บูมเหมือนก่อนโควิดที่มีคนเข้ามาเลือกซื้อเยอะ ๆ ตอนนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวกลับมาบ้าง อาทิ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย ส่วนยอดขายตอนนี้ก็ค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่กลับไปเท่ากับก่อนโควิด

นอกจากนี้ ร้านค้าจำนวนหนึ่งในศูนย์ค้าส่งใบหยกยอมรับว่า “เดือน ๆ หนึ่งแทบไม่ได้ขายเลย มานั่งเฝ้าร้านอย่างเดียว ตอนนี้ปิดร้านเร็วขึ้น ถ้าสู้ไม่ไหวก็คงต้องปิดร้าน และร้านอื่น ๆ ที่สู้ไม่ไหวก็ออกไปจำนวนหนึ่งแล้ว หากสังเกตจะเห็นได้ว่า นอกจากภาพของการเปิดร้านในลักษณะฟันหลอ หรือเปิดร้าน-ปิดร้านสลับ ๆ กันไปแล้ว ก็มีร้านค้าจำนวนหนึ่งที่ปิดป้ายประกาศขาย-เซ้งด้วย”