
ดร.สนธิชี้ฝุ่น PM 2.5 ริมถนนในเมือง หากสูดดมในปริมาณมาก อาจส่งผลต่อสุขภาพ และเสี่ยงเกิดโรคภูมิแพ้ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคมะเร็งปอด โรคหลอดเลือดในสมอง และโรคหัวใจ เป็นต้น
วันที่ 15 มกราคม 2567 ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวถึงฝุ่น PM 2.5 ริมถนนในเมือง
ดร.สนธิระบุว่า จากงานวิจัยศึกษาองค์ประกอบของสารพิษที่อยู่ในฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่อยู่ริมถนนบริเวณที่มีการจราจรติดขัดในหลายประเทศ โดยเก็บตัวอย่างด้วยเครื่องมือ Dichotomous Partisol Samplers และนำมาวิเคราะห์หาองค์ประกอบในฝุ่น PM 2.5 พบว่า
1.ในฝุ่นขนาดเล็ก 5 ไมครอนจะพบสารซัลเฟต, ไนเตรต, คลอไรด์, สารคาร์บอนอินทรีย์, เหล็ก และแคลเซียมมากที่สุด โดยมีสารคาร์บอน, ซัลเฟต และไนเตรต รวมกันถึงร้อยละ 80 สำหรับสารคาร์บอนจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มคือ Polycyclic Aromatic Hydrocarbons (PAHs)
ซึ่งเป็นกลุ่มของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีโครงสร้างที่เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตมากที่สุด จึงทำให้องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้กำหนดให้ฝุ่น PM 2.5 เป็นสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 ในปี 2556
2.สำหรับซัลเฟต, ไนเตรต และแคลเซียม เป็นสารอนินทรีย์ที่มาจากฝุ่นดินบนถนน ส่วนเหล็กเป็นโลหะหนักมาจากการกัดกร่อนของเครื่องยนต์ ซึ่งทั้งหมดเป็นของแข็งที่ไม่ย่อยสลาย และเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ฝุ่นละอองขนาดเล็กมีความแข็ง สามารถแทงทะลุเข้าไปในถุงลมปอดได้
หากเป็นฝุ่นขนาดเล็กกว่า 1.0 ไมครอน จะสามารถทะลุเข้าไปในเส้นเลือดและไหลไปสะสมที่อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย และก่อให้เกิดอาการอักเสบที่อวัยวะส่วนนั้นจนอาจเป็นมะเร็งในที่สุดโดยเฉพาะที่ปอด
3.เมื่อหายใจเอาฝุ่นขนาดเล็กริมถนนเข้าไปในปริมาณมาก จึงมีโอกาสที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคมะเร็งปอด โรคหลอดเลือดในสมอง และโรคหัวใจ เป็นต้น
4.ดังนั้นประชาชนจึงต้องระวังสุขภาพเมื่อเดินอยู่ริมถนน โดยเฉพาะถนนที่มีอาคารสูงสองข้างและการจราจรติดขัด ถนนใต้สถานีรถไฟฟ้า ถนนที่มีการก่อสร้างต่าง ๆ เป็นต้น หากจำเป็นต้องใส่หน้ากากกันฝุ่น Model N-95 ซึ่งจะสามารถป้องกันฝุ่นขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอนขึ้นไปได้ถึงร้อยละ 95